วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

สุเทพ เวทีกระทรวงการคลัง

ประชาชนขอประกาศเลิกการปกครอง "ระบอบทาส-ขี้ข้าทักษิณ" เพื่อล้มรัฐบาลที่ประกาศตนไม่ยอมรับผลคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ

ประชาชนขอประกาศเลิกการปกครอง "ระบอบทาส-ขี้ข้าทักษิณ"

เพื่อล้มรัฐบาลที่ประกาศตนไม่ยอมรับผลคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนู
เพราะ 1. ระบอบนี้ทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์
2. ระบอบนี้ทำลายระบบข้าราชการไทยให้เป็นทาสนักการเมือง
3. ระบอบนี้ทำลายประเทศ ให้เป็นหนี้ ประชาชนจะยากจนไปชั่วลูกชั่วหลา

วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ข่าวเกาะติดสถานะการณ์ ตำรวจนครบาล จะเดินทางไปศาลอาญารัชดา เพื่อขอหมายจับแกนนำ 5 คน ข้อหา ปุกปั่น บุกรุก ทำลายทรัพย์สิน ช่วงบ่ายวันนี้ 27 พ.ย. 2556 เวลา 13.00 น. รายชื่อผู้ที่ถูกออกหมายจับ มี ทนายนกเขา นายอุทัย ยอดมณี นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นายสำราญ รอดเพชร นางอัญชลี ไพรีรักษ์

คำขวัญ "เสาหลักประชาธิปไตย ศาลปกครอง ปกป้องความยุติธรรม ประชาชนมีทุกข์ร้องเรียนได้ ผู้พิพากษาจะวินิจฉัยคำร้องในพระปรมาภิไธย"

คนไทยเลือดรักชาติ "อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภัคดี" ขอเรียนเชิญ คนกรุงเทพฯ ออกมาขับไล่ระบอบทาสขี้ข้าทักษิณ ให้สิ้นไป.

คนไทยเลือดรักชาติ "อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภัคดี"
ขอเรียนเชิญ คนกรุงเทพฯ ออกมาขับไล่ระบอบทาสขี้ข้าทักษิณ ให้สิ้นไป.

บทความ ประชาชนจะเชื่อและเคารพศาลไหนดีเพราะ แต่ละศาลวินิจฉัยคดีขัดกัน แล้วศาลไหนทำถูก แล้วศาลไหนทำผิด ตรงนี้มีคำตอบ

บทความ ประชาชนจะเชื่อและเคารพศาลไหนดีเพราะ แต่ละศาลวินิจฉัยคดีขัดกัน
แล้วศาลไหนทำถูก แล้วศาลไหนทำผิด ตรงนี้มีคำตอบ
1. ศาลรัฐธรรมนูญมีคำพิพากษาว่า รัฐบาลนี้กระทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ
แสดงว่า รัฐบาลกระทำผิดจริง
ส่วนประชาชนที่มาขับไล่รัฐบาลนั้น กระทำถูกตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ
2. ศาลอาญา(ข้อกฎหมายเรียกศาลสถิตย์ยุติธรรม)
ตำรวจไปขอหมายจับคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ผล ศาลอาญาอนุญาตออกหมายจับให้ตำรงจ
แสดงว่า ศาลอาญา วินิฉัยว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้กระทำผิดกฎหมายตามฟ้องจริง แต่ศาลมิได้ไตร่สวนฝ่ายผู้ต้องหาเลย ถือว่าเป็นการไม่ชอบ
ข้อสังเกต เมื่อตำรวจฟังคำสั่งรัฐบาลที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตำรวจไปขอหมายจับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นั้นก็เป็นการใช้อำนาจของตำรวจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเหมือนกัน แล้วศาลอาญารับวินิจฉัยการขอหมายจับทำไม!
ส่วนประชาชนจำนวน 1 ล้านคนก็กกระทำความผิดกฎหมายตาม พรบ. ความมั่นคง เหมือนกัน
ตำรวจมีกำลังมากมาย หลักฐาน ภาพถ่าย วีดีโอ ของผู้มาชุมนุมก็มี ทำไม่ออกหมายจับประชาชน 1 ล้านคน
มาตรงนี้ ประชาชนก็จะฟ้องตำรวจ ต่อ ศาลปกครองว่า ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่
ส่วนเรื่องการออกหมายจับคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ นี้น ทีมทนายจะไปขอยื่นอุธรณ์
เรื่อง การออกหมายจับ ในวันพรุ่งนี้
ตามหลัก กฎหมายลูก(กฎหมายอาญา)จะขัดแย้งหรือมีศักดิ์ใหญ่กว่า กฎหมายรัฐธรรมนูญไม่ได้
3. ศาลปกครอง จะเป็นผู้ตัดสินว่า รัฐบาลกระทำการใดๆต่อไปนี้ว่า ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อ้างถึง คำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ
สรุป
คำเตือน ตำรวจหรือข้าราชการกระทรวงใด ไปรับใช้ตามคำสั่งของรัฐบาล
 ก็จะเป๊นการกระทำความผิดฐานไปรับคำสั่งของรัฐบาลที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
4. ศาลฎีกาคดีอาญาแผนกคดีนักการเมือง ก็นั่งรอนอนรอ ปปช.สั่งคดีรัฐบาลกกระทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญฟ้องต่ออัยการสูงสุด จากนั้นก็นั่งรอนอนรอ อัยการสูงสุดจะสั้งฟ้องคดีต่อศาลฎีกา
กว่า ศาลฎีกาจะตัดสินคดี นายก ประธานรัฐสภา ประธานวุฒิสภา ส.ส.และสว. รวมทั้งหมด 312 คนว่าได้กระทำความผิดกฎหมายรัฐธรรมไม่รับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญเป็น กบฏ
มีโทษ ประหารชีวิต นั้น ประเทศชาติก็วุ่นวาย
ประชาชนไม่รู้จะเชื่อศาลไหนว่า กระทำถูกต้องตามกฎหมาย!!!
สรุป กว่าจะรู้ว่าใครผิด ใครถูก ประเทศชาติก็เข้าสู่ภาวะวิกฤติแล้ว
1. ตำรวจ เข้าปราบปรามประชาชน เพราะ ฟังคำสั่งของรัฐบาล
2. และเมื่อประชาชนเจ็บ ประชาชนตาย ประชาชนจะทำอย่างไร
3. จะรอศาลปกครอง กับ ศาลฎีกา ออกโรง จะรอนานอีกเท่าไร ความจริงจึงจะปรากฎ
4. มาถึงตรงนี้ ประชาชนเขาไม่รอแล้ว เขาจะไปฟ้องศาลเตี้ยเอง!!!

วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ปณิธาน...ข้าราชการไทย.

วันฟ้าเปลี่ยนสี...เปลี่ยนแปลงประเทศไทย


ข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันนี้ท่านจะต้องเลือกข้างว่าจะรับใช้รัฐบาลหรือจะรับใช้ประชาชน

ปิดตำนานนายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไล่เธอออกนอกประเทศไป...

ฟ้าลิชิตนายกชะตาขาดแล้ว

เกมส์การเมือง...เรื่องการใช้กฎหมายปราบรัฐบาลกบฏและล้มล้างระบอบทักษิณ.

ข่าวด่วน!!! ทักษิณ ชินวัตร ประกาศกร้าว ใครไม่เกียวถอยออกไป...

ข่าวด่วน!!!
ทักษิณ ชินวัตร ประกาศกร้าว ใครไม่เกียวถอยออกไป...
คนใหญ่คนโตในบ้านนี้ในประเทศนี้ล้วนเป็นขี้ข้าผมหมดแล้ว...ลองไล่รายชื่อขี้ข้าผมดู...
1. ผบ.ตร.แห่งชาติ
2. ผบ.ทบ. และผบ.ทุกเหล่าทัพ
3. อัยการสูงสุด
4. ศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย 4 คน
5. ปปช. ระดับหัว 3 คน
6. กกต. 5 เสือทุกคน
7. ส.ส. และ สว. จำนวน 312 คน
8. ผู้พิพากษา ศาลชั้นต้น ศาลอุทรณ์และศาลฎีกา จำนวนมากกว่า 100 คน
9. ผู้ว่าเสื้อแดงอีกกว่า 60 จังหวัด
10 ข้าราชการทุกกระทรวง ที่เห็นแก่ตัว ชอบเอาตัวรอดและอยากเป็นใหญ่ ก็เป็นขี้ข้าผมมีกว่า 100,000 คน
สรุป... ระบอบทักษิณ ใครไม่เห็นด้วย แข็งข้อจะอยู่ไม่ได้ เพราะ ผมจะเช็คบิลทุกคน
การลุกฮือของประชาชนกว่า 1 ล้านคน ก็ทำอะไรผมไม่ได้ ฟังให้ดีๆพวกแกนนำคนรักชาติ
ถ้าปิดสมัยประชุมเมื่อใด ผมสั่งให้น้องสาวยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชน
ผล ประชาชนก็ต้องเลิกชุมนุม แกนนำก็ไม่มีข้ออ้างที่จะนำประชาชนมาชุมนุมอีก
เมื่อ กกต. กำหนดให้มีการเลือดตั้ง ผมใช้เงินเพียง 1 หมื่นล้านซื้อ ส.ส. ซื้อเสียงประชาชน
ในที่สุดผมก็จะเป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้ง น้องสาวผมก็ตั้งรัฐบาลปกครองประเทศได้อีก
ผมนายทักษิณ ชินวัตร ขอเตือนว่า
***ทุกเวทีที่ชุมนุมขับไล่รัฐบาล ผู้นำ ประชาชน คิดหรือยังว่า จะปราบผมให้สิ้นซาก
ควรทำอย่างไร อย่ามัวแต่ร้องรำทำเพลงสนุก ถ้าเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งเมื่อไร การชุมนุมครั้งนี้ก็จะไร้ประโยชน์ ประชาชนนับล้านคนก็จะแพ้ผมเหมือนเดิม!!!

วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

บทความ ประเทศไทยดิฉันใช้เงินซื้อได้ พวกเธอคิดอย่างไร เมื่อดิฉัน ยุบสภา ซื้อเสียง แล้วชนะการเลือกตั้ง ประเทศไทยก็มาเป็นของฉันเหมือนเดิม.






บทความ ประเทศไทยดิฉันใช้เงินซื้อได้ พวกเธอคิดอย่างไร เมื่อดิฉัน ยุบสภา ซื้อเสียง แล้วชนะการเลือกตั้ง ประเทศไทยก็มาเป็นของฉันเหมือนเดิม
ข้อมูลประเมินสถานการณ์การเมือง 
1. ตอนนี้ ปปช. รับคำร้องแต่ยังไม่ชี้มูล เรื่องที่ส.ส.ในพรรครัฐบาล ได้กระทำผิดกฎหมายรุฐธรรมนูญเรื่อง การเสียบบัตรแทนกัน เรื่อง การแก้กฎหมายที่มาของสว. เรื่องการแก้กฎหมายตัดสิทธิประชาชน เพื่อแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดยเฉพาะ การไปทำสัญญากับต่างประเทศ ไม่ต้องนำเรื่องเข้าสภา 
ผล ถ้า ปปช. ชี้มูลว่า มีความผิด ดิฉันจะต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่ การเมืองก็จะเป็นสูญญากาศ 
2. เมื่อ ปปช. ชี้มูล แต่ไม่ต้องไตร่สวนมูลฟ้องแล้วเพราะ สามารถใช้คำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญมาอ้างได้เลย ต่อจากนั้นก็ต้องออกมติให้มีการสั่งฟ้องคดีต่ออัยการสูงสุด
3. ถ้าอัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้องด้วย ก็จะฟ้องคดีต่อศาลฎีกาคดีอาญาแผนกนักการเมือง หรือ ถ้าอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง ลำดับต่อไป ปปช. ก็สามารถฟ้องเองได้ตรงต่อศาลฎีกา
4. ระหว่าง ปปช. กำลังรับคดีและทำงานแบบกลัวตายนั้น ถั่งก็สุขงาก็ไหม้ กล่าวคือ ส.ส.ฝ่ายค้านกำลังขอเปิด อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล แต่ก็ใช้เวลาพิจารณาสั้นๆ ผล ก็จะแพ้โวตจากรัฐบาลเสียงข้างมาก 
5. ดิฉันก็จะไม่ลาออก แต่จะยุบสภา ดิฉันก็จะเป็นนายกรักษาการ มีอำนาจเหมือนเดิม ส่วนม็อบที่มาชุมนุมก็ต้องเลิก เพราะ รัฐฐาลคืนอำนาจให้ประชาชนแล้ว 
6. ดิฉันใช้เงินซื้อประเทศไทยเหมือนเดิม ซื้อ ส.ส. ซื้อเสียงประชาชน
ผล ก็ชนะการเลือกตั้งอีก 
7. มาตอนนี้ก็จะมาจัดตั้งรัฐบาล ส่วนคดีที่ค้างอยู่ที่ ปปช. ดิฉันก็จะใช้วิธีทั้งขู่ทั้งปลอบ ใช้เงินฟาดหัว ผล ปปช.ไม่ชี้มูล ดองเรื่องไว้ เมื่อประชาชนลืม ก็มีมติออกมาว่า สั่งไม่ฟ้องคดีเรื่องก็จบ
8. ประเทศไทยก็จะตกอยู่กับตระกูลชินวัตรเหมือนเดิม ไม่ไมีใครมาชุมนุมอีกแล้วเพราะ ดิฉันมาจากการเลือกตั้งเป็นประชาธิปไตย 
สรุป ประเทศไทยจะไม่มีวันเจริญเพราะประชาชนส่วนใหญ่ ยังเห็นแก่เงินซื้อเสียง เห็นว่าเลื่อกใครเข้าไป มันก็โกง แก้ไขไม่ได้ เอาเงินที่มันมาฟาดหัวดีกว่าไม่ได้อะไรเลย ถ้ายังแก้ตรงนี้ไม่ได้ อย่ามาหวังจะปฎิรูปประเทศอะไรนี่ มันเป็นเรื่องไกลตัวไม่มีวันเป็นไปได้

บ้านเมืองจะเดินไปอย่างไร เมื่อ นายก ส.ส. สว. 312 คน ประกาศไม่รับอำนาจศาล ตรงนี้มีคำตอบ...

บทความ การล่ารายชื่อ ถอดถอน นักการเมืองหรือบุคคลในองค์กรอิสระ
จากอดีตถึงปัจจุบันเป็นเพียงการเล่นปาหี่เท่านั้น ไม่เคยมีผลสำเร็จเลย!!!
ไม่ว่า จะเป็นฝ่ายใด เพราะ อะไร ตรงนี้มีข้อมูลที่น่าสนใจคือ
1. ประชาชนผู้ที่ลงลายมือชื่อเพื่อถอดถอนนักการเมืองหรือบุคคลองค์กรอิสระตามที่กฎหมายกำหนดให้สิทธิไว้นั้น เบื้องต้นจะเป็นผู้ที่เคยไปใช้สิทธิการเลือกตั้งครั้งล่าสุด
2. สำหรับประเทศไทย เมื่อมีการการล่ารายชื่อ ถอดถอน นักการเมืองหรือบุคคลในองค์กรอิสระ แล้ว
ขั้นตอนต่อไปคือ ต้องตรวจสอบว่า ผู้นั้นมีสิทธินั้นได้ทำตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ ปรากฎว่า ถั่วสุกงาไหม้ เหตุการณ์บ้านเมืองได้เปลี่ยนไปหรือจบไปแล้ว ขบวนการตรวจสอบสิทธิผู้ลงลายมือชื่อก็ยังไปไม่ถึงไหน การตรวจสอบสิทธิผู้ถอดถอนก็ยังไม่เสร็จ
สรุป... นักการเมืองเจ้าเล่ห์ ออกกฎหมายมาให้ประชาชนดูว่า นักการเมืองทำดี แต่ผลที่ออกมากฎหมายไม่สามารถใช้ได้จริง กฎหมายฉบับนี้ก็ควรปฎิรูปใหม่...

บ้านเมืองจะเดินไปอย่างไร เมื่อ นายก ส.ส. สว. 312 คน ประกาศไม่รับอำนาจศาล
ตรงนี้มีคำตอบ...

วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

พรุ่งนั้ วันพฤหัสษบดีที่ 20 พ.ย. 2556 ประเทศไทยจะเป็นราชอณาจักรไทย หรือ จะเป็นรัฐทักษิณ ชินวัตร


บทความ...
ทางสองแพร่งประเทศไทย?
พรุ่งนั้ วันพฤหัสษบดีที่ 20 พ.ย. 2556
ประเทศไทยจะเป็นราชอณาจักรไทย
หรือ จะเป็นรัฐทักษิณ ชินวัตร
ถ้าศาลรัฐธรรมนูญ...มีคำพิพากษาว่า นายกและคณะรัฐบาลกระทำผิดกฎหมาย
มีความผิด ฐานล้มล้างรัฐธรรมนูญเป็นกบฏ
สรุป
เมื่อสองอำนาจ...มาชนกัน...
ตำรวจ ทหาร ข้าราชการ ประชาชน จะจัดการอย่างไร!!!

วันศุกร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2556

บทความ ชาติต้องการคุณ

บทความ ตอนชาติต้องการคุณ
ผมนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ไม่สนใจ ส.ส. คนไหนหน้าไหนในรัฐสภาที่จะลุกขึ้นมาขออภิปรายคัดค้าน การออกกฎหมายว่าด้วยที่มาของ สว.จะต้องมาจากการเลือกตั้งเท่านั้น 
ตอนนี้ผมนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ได้ตัดสิทธิ์ คุมเกมส์ และให้โวตลงคะแนนวาระสาม เพื่อให้กฎหมายผ่าน ผล ได้คะแนนโวตให้กฎหมายผ่าน 358 เสียง ผมจึงเรียนให้ประชาชนทราบว่า กฎหมายนี้ดีมากเลย ต่อไปองกรค์อิสระ ไม่ว่าจะเป็น อัยการ ศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลฎีกาแผนกนักการเมือง กกต. ปปช. ต้องเป็นคนของเราเข้าไปเป็นใหญ่ เพราะ ทุกองค์กรที่กล่าวมา ตามกฎหมายให้ สว. เป็นผู้เลือก คัดสรรและรับรองสถานะภาพ ต่อไปพรรคเพื่อไทยจะทำผิดอะไร เรื่องก็จะถูกดองหรือไม่รับคำร้องหรือทำให้คดีหมดอายุความ 
คำถาม... 1. ประเทศไทยจะเจริญแบบไหน 
             2. เมื่อกฎหมายผ่านวาระสาม นายกรัฐมนตรีต้องนำร่างกฎหมายกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อลงนามพระปรมาภิไธย ภายใน 20 วัน ผลจะเป็นการมิบังควรหรือไม่
              3. ปวงชนชาวไทยรู้อยู่เต็มอก เหมือนกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวว่า เป็นกฎหมายอัปยศ ทำให้ขบวนการยุติธรรมพังทั้งระบบ 
              4. มีถึง 5 คำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องและพิจารณาว่า การแก้กฎหมายตามข้อ 2. นั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญ
               5. ต่อไปถ้าต้องการยุบสถาบันพระมหากษัตริย์ให้เป็นเพียงสัญลักษณ์ ก็จะใช้ลักษณะเดียวกัน วิธีการกล่าวคือ 5.1 ยื่นญัตติ 5.2 แปรญัติ 5.3 โวตให้ผ่าน 3 วาระ 5.4 นำร่างกฎหมายกราบบังคมทูล 5.5 ถ้าพิจารณาผ่านก็จบ หรือ กรณีไม่พิจารณาลงมา 5.6 นายกก็สามารถใช้อำนาจตนเองประกาศใช้กฎหมายได้เลย 
                สรุป ตอนนี้เกินกำลังปประชาชนคนรักชาติ รักในหลวง ที่จะทำหน้าที่แล้ว
คำถาม ผบ.ทหารบก ผบ.ทหารเรือ ผบ.ทหารอากาศและทหารอาชีพทุกเหล่าทัพทั่วประเทศ (ทุกคนที่จะขึ้นเป็นนายทหารระดับเสนาธิการ ต้องผ่านหลักสูตรโรงเรียนเสนาธิการ หลักสูตรป้องกันราชอณาจักรไทย ) พวกท่านไปอยู่ไหน ทำไมไม่ออกมาส่งสัญญาณปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์เพราะ หลักสูตรใดก็จะสอนให้ทหารหาญรักและเทิดทูลพระเจ้าอยู่หัวด้วยชีวิตหรือพวกท่านจะนั่งดูเป็นทหารไม่รับไม่รู้ เหมือนกรณีคนเสื้อแดงมันออกมาข่มขู่ศาลรัฐธรรมนูญแล้วปล่อยให้ท่านผู้พิพากษาอยู่อย่างโดดเดี่ยว

วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2556

ฉันทำให้เธอคนไทยทุกคนต้องเป็นหนี้ 5.5 ล้านล้านบาทจริงหรอค่ะ!!!เชื่อฉันซิสินค้าไม่แพงค่ะ. ประชาชนทุกภาคในประเทศเรากินดีอยู่ดี...ทุกคนมีงานทำ...เศรษฐกิจรุ่งเรือง...มีแค่เรื่องต่างประเทศแทรกแซงและมาออกคำสั่งปกครองประเทศ...แต่เป็นพี่ชายฉันเองก็แค่นั้นล่ะค่ะ...

บทความ ทางออกประเทศไทยวันนี้

บทความ ปัญหาและทางออกประเทศไทยวันนี้

ปมปัญหาที่รัฐบาลกำลังแก้กฎหมายในรัฐสภามีดังนี้
1. รัฐบาลแก้กฎหมายเพือ การกู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาทโดยไม่ต้องทำประชาวิจารณ์ ประเทศจะจนลงและเป็นหนีทันที ส่งผลหยุดการเจริญของประเทศต้องหาเงินใช้หนี้เป็น 5.5 ล้านล้านบาทในระยะเวลา 50 ปี
2. แก้กฎหมายให้นักการเมืองมีช่องทางหลุดคดี เวลานักการเมืองทุจริต โกงชาติ ขายชาติ องค์กรอิสระปปช.ไม่สามารถฟ้อต่อศาลฎีกาโดยตรงได้ ต้องยื่นฟ้องต่ออัยการสูงสุด ถ้าอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องคดี นักการเมืองก็รอด ปัจจุบันอัยการสูงสุดถูกนักการเมืองซื้อตัวไปเป็นพวกหมดแล้ว
3. แก้กฎหมายที่มาของสว.ให้มาจากการเลือกตั้งอย่างเดียว สว.มาจากสามีภรรยา บุตร มาจากญาติพี่น้องได้ ไม่มีการเว้นวรรคหากหมดสมัยมาสมัครลงสว.ต่อได้เลย ถ้าเป็นส.ส.สอบตกก็มาสมัครลงสว.ต่อได้เช่นกัน แบบนี้หัวหน้าพรรคการเมืองก็ส่งส.ส.ที่เป็นสามี ภรรยา บุตร เครือญาติ หรือพวกสวะการเมืองมาลงสมัครสว. ผล ต่อไปจะแก้กฎหมายอะไร จะไม่มีการคัดค้านหรือโต้แย้ง ส.ส.พรรครัฐบาลก็ทำได้ทุกเรื่อง จะแก้กฎหมายหมวดพระมหากษัตริย์ก็ย่อมทำได้ ที่น่ากลัวมากกว่านั้น องค์กรอิสระเกือบทุกองค์กรมีการแต่งตั้ง คัดสรร มาจากรัฐสภาโดยใช้อำนาจของสว.เป็นผู้แต่งตั้งและรับรองทั้งสิ้น ผล ส.ส.สร้างสว.ขึ้นมากับมือ สว.สร้างองค์กรอิสระมากับมือ เวลาส.ส.รัฐบาลทุจริต โกงกิน กระทำผิดกฎหมาย จะมีใครมาตรวจสอบ ดำเนินคดี เอาผิดได้ เพราะ เป็นพวกเดียวกันทั้งระบบ
4. การเปลี่ยนจากกรมตำรวจมาเป็นสนง.ตร.แห่งชาติแล้วให้ขึ้นตรงกับสำนักนายกรัฐมนตรี ผลตำรวจ ยอมเป็นเครื่องมือให้นักการเมืองทุกเรื่อง ไม่ว่าจะให้ไปอุ้มฆ่าใคร ปราบม็อบโดยใช้ความเกลียดชังเป็นมูลเหตุ ตำรวจระดับนายพลยอมก้มหัวรับใช้เพราะเพื่อหวังในลาภ ยศ ตำแหน่ง และการเอาตัวรอดอย่างมีอนาคต
5. องค์กรสถาบันทหาร ระดับผบ.เหล่าทัพ ในทางลับเดินทางไปเจรจากับนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร เพื่อแสดงความจงรักภัคดี ไม่ว่า รัฐบาลจะทุจริต โกงชาติ ขายชาติ ทำให้ชาติพัง ก็จะลอยตัวเป็นทหารเฉย ส่วนเรื่องทหารทุจริตเองเช่นเรื่องค้นหาระเบิด รัฐบาลก็จะไม่ไปขุดคุ้ยทหารเช่นกัน
6. ประชาชนผู้รักในหลวง ได้ออกมาต่อสู้กับรัฐบาลที่ทุจริต ออกมาขับไล่ แต่จิตสำนึกรัฐบาลไม่มี ต้องสู้กันด้วยข้อกฎหมาย ส่วนรัฐบาลเลือกการใช้กฎหมาย ตำรวจ อาวุธ ความรุนแรง ลอบยิงจรวดแบบกองโจร ดำเนินคดีกับคนรักชาติ สรุป ไม่เหลือนักรบประชาชนอีกแล้ว มีแต่ไทยเฉยที่นั่งดูและยอมให้รัฐบาลข่มขืนไปเรื่อยๆ

ทางออกประเทศไทย
1. ไม่มีใครจะออกมาร่วมกันปฎิรูปบ้านเมืองแล้ว ก็ปล่อยให้รัฐบาลปกครองไปจนกว่าประเทศชาติจะล่มจมทางเศรฐกิจ ให้ประเทศล้มเหลวไม่เป็นนิติรัฐ ถึงจุดสุขงอมที่ไทยเฉยอยู่ไม่ได้ออกมาต่อสู้ทั้งประเทศ
เพื่อปฎิรูกระบบการเมืองเก่าที่เป็นเผด็จการรัฐสภา
2. ไม่ต้องแบ่งแยกดินแดน ไม่ต้องแบ่งประเทศ แต่ให้มีการเลือกตั้งนายก 4 ภาค มีนายก 4 คน ใครรักใครก็ย้ายตามนายกไป ส่วนภาษีก็เก็บภาคใครภาคมัน บริหารเป็นรัฐๆมีกฎหมายที่ไม่เหมือนกัน แต่เป็นประเทศเดียวกัน
3. เลือกเอาตัวรอดแบบตัวใครตัวมัน พวกใครพวกมัน ช่วยกันโกงกิน ทุกระดับการปกครอง ส่วนปัญหาประเทศชาติปล่อยให้มันคารังคาซังไปแบบสมบัติผลัดกันชม นักการเมืองรวยกระจุก แต่ประชาชนจนกระจาย ชาติจะฉิบหายไม่ใช่เรื่องของกู ประชาชนรุ่นลูกรุ่นหลานก็จะลำบาก กว่าจะเรียนจบก็ใช้เงินพ่อแม่ไปหลายล้านบาท พอจบก็ไม่มีงานดีๆทำ อนาคตต้องเป็นหนีในระบบปัจจัยสี่ ต้องเป็นหนี้บ้าน หนี้รถยนต์ หนี้เงินกู้ หากไปทำผิดกฎหมายไม่มีเงินก็จะเหมือนหมาข้างถนน สังคมบัดซบอยู่กันอย่างเห็นแก่ตัว ทางออกข้อที่ 3 นี้ ประเทศไทยนิยมมากคือ อยู่กันแบบนี้เหละจนกว่าจะตายจากกันไป...

คลิปพระดังพังงามั่วสีกาว่อนเน็ต




เผยพระฉาวเสพเมถุนกับสีกาสาวใหญ่ชาวภูเก็ต ที่แท้เป็นเจ้าอาวาสวัดป่าโมกข์ และเจ้าคณะอำเภอกะปง จ.พังงา หลังมีข่าวดังดอดพบเจ้าคณะจังหวัดพังงาตอนหัวรุ่งขอลาสิกขา ใส่ชุดขาวหายตัวเข้ากลีบเมฆ ขณะที่ลูกศิษย์ลูกหาช็อก! ไม่อยากเชื่อภาพในคลิปฉาวจะเป็น “อาจารย์หรีด” ที่มีชื่อเสียงในการปลุกเสกวัตถุมงคล ส่วนสีกาสาวใหญ่เก็บตัวเงียบ
       
       ภายหลังจากที่มีข่าวว่อนในโลกอินเทอร์เน็ตแฉพฤติกรรมพระดังเมืองพังงาเสพเมถุนกับสีกาสาวเศรษฐินีเมืองภูเก็ต เมื่อ 1-2 วันที่ผ่านมา ทำให้เป็นที่วิพากาวิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในโซเชียลเน็ตเวิร์ก ว่า พระรูปดังกล่าว และสีกาคนนั้นเป็นใครที่กล้าทำเรื่องเสื่อมเสียให้แก่วงการสงฆ์ จนขณะนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า พระรูปดังกล่าว คือ พระครูบุญญาภินันท์ หรืออาจารย์หรีด เจ้าอาวาสวัดป่าโมกข์ และเจ้าคณะอำเภอกะปง จ.พังงา ซึ่งเป็นพระที่มีชื่อเสียงในการปลุกเสกวัตถุมงคล มีลูกศิษย์ลูกหาในภาคใต้จำนวนมาก
 
       โดยล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (18 ก.ย.) ที่วัดประชุมโยธี (พระอารามหลวง) อ.เมือง จ.พังงา พระเทพปัญญาโมลี เจ้าคณะจังหวัดพังงา ได้เปิดเผยแก่ผู้สื่อข่าวว่า เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ พระครูบุญญาภินันท์ หรืออาจารย์หรีด เจ้าอาวาสวัดป่าโมกข์ อ.กะปง จ.พังงา และเจ้าคณะอำเภอกะปง ซึ่งเป็นพระหน้าคล้ายกับพระในคลิปฉาวได้เดินทางมายื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าโมกข์ ต.ท่านา อ.กะปง จ.พังงา และลาออกจากเจ้าคณะอำเภอกะปง พร้อมกับให้ตนเองทำการลาสิกขาให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยหลังจากลาสิกขาแล้วได้สวมใส่ชุดขาว และมีลูกศิษย์มารับออกไปจากวัดโดยไม่ได้แจ้งว่าเดินทางไปไหน
       
       โดยในช่วงค่ำของเมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) หลังจากมีข่าวฉาวออกไป ทางฝ่ายปกครองคณะสงฆ์ของจังหวัดพังงา ได้ดำเนินการสอบสวน พร้อมขอหลักฐานจากฝ่ายต่างๆ มาตรวจสอบดู และได้สอบถามไปยังเจ้าตัวซึ่งก็นิ่งไม่ยอมรับ หรือปฏิเสธ ต่อมา ในช่วง 21.00 น.ได้แจ้งว่า จะเดินทางมาพบกับเจ้าคณะจังหวัด หลังจากนั้นก็ได้เข้าพบในในช่วงเวลา 04.00 น. พร้อมกับกล่าวเพียงว่า ตนเองได้หมดวาสนาจะได้อยู่ใต้ร่มกาสาวพัสตร์ต่อไป พร้อมกับได้ฝากปัจจัยและงานต่างๆ ของวัดที่ยังค้างอยู่ ให้คณะสงฆ์ที่รับผิดชอบดำเนินการต่อไป
       
       “พระอาจารย์พ่อหรีดได้เดินทางเข้าพบ พร้อมกับขอลาสิกขา โดยไม่ได้ปฏิเสธเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด เพียงแต่นิ่งเฉย จึงเห็นว่าเป็นการอาบัติปาราชิกจริงๆ ซึ่งจริงๆ แล้วหากพระภิกษุสงฆ์ทราบว่ากระทำผิดร้ายแรงถึงขั้นอาบัติปาราชิกก็สามารถถอดผ้าเหลืองสละความเป็นพระสงฆ์ได้ด้วยตนเอง” เจ้าขณะจังหวัดพังงา กล่าวในที่สุด
       
       ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายในวัดป่าโมกข์ อ.กะปง ยังมีชาวบ้านบางส่วนที่เดินทางมาทำบุญที่วัด พร้อมทั้งนั่งเฝ้ารอที่บริเวณหน้ากุฎิ อาจารย์หรีด แต่มีการเขียนป้ายติดไว้ด้านหน้าว่า “พระอาจารย์ไม่อยู่” ภายในกุฎิเงียบเหงาปิดประตู่เงียบไม่มีพระ มีเพียงชาวบ้านที่มานั่งจับกลุ่มพูดคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องจริง เพราะที่ผ่านมา อาจารย์หรีด เป็นพระที่พัฒนาวัด จนมีชาวบ้านในหลายจังหวัดทางภาคใต้นับถือมาก บางรายเมื่อทราบว่าพระอาจารย์หรีดลาสิกขา ถึงกับร้องไห้น้ำตาไหลถึงกับเหตุการณ์ดังกล่าว
      
 

วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2556

อาหารเซเว่นดีหรือไม่

อาหารเซเว่นแทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำ ของใครหลายๆคน อย่างน้อยที่สุดในหนึ่งอาทิตย์
เชื่อว่าต้องไปรับประทานกัน แล้วเคยสงสัยกันไหมว่าอาหารที่เรารับประทานนั้นมีคุณค่าทางอาหารหลงเหลือ อยู่บ้างรึเปล่า วันนี้มีเรื่องๆดีๆมาบอกต่อกัน
อย่างแรกเลยคืออาหารกล่องเซเว่น หลายคนคงติดใจในรสชาติและความสะดวกสบาย เหมือนกับที่ผู้เขียนติดใจในรสของกระเพราไก่ไข่ดาว อาหารกล่องเซเว่นเป็นอาหารประเภท cook chill ที่ทั่วโลกตอนนี้กำลังนิยม คือการทำให้สุกแล้วลดอุณหภูมิลงเพื่อให้สามารถเก็รักษาได้นานขึ้น ก็เหมือนกับการที่เรารับประทานอาหารเย็นเหลือแล้วเก็บไว้อุ่นรับประทานในตอนเช้าฉะนั้นคุณค่าทางอาหารจึงลดลงตามสัดส่วนของการผ่านความร้อน แต่อาหารที่ผัด นึ่ง ต้ม นั้นจะเสียคุณค่าทางอาหารน้อยกว่าอาหารที่ทอดนะคะ ส่วนเรื่องของกล่องพลาสติกนั้น ปลอดภัยในระดับหนึ่งคือทางเซเว่นเขาออกแบบมาเพื่อการใช้งานเพียงครั้งแรก ครั้งเดียว ฉะนั้นอย่าเก็บไปใช้ในครั้งต่อๆ
ส่วนไส้กรอก ซาลาเปา ขนมจีบ หลายคนคงคิดว่าอาหารพวกนี้ตรงส่วนที่เป็นเนื้อหมูนั้นมีแต่โปรตีนล้วนๆ แต่รู้ไหมค่ะว่าอาหารพวกนี้ผสมไขมันลงไปในปริมาณที่เยอะพอสมควร ฉะนั้นสำหรับใครที่ต้องการปริมาณแคลอรี่จากอาหารน้อยๆ ก็ไม่แนะนำให้รับประทาน

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละคน แต่ถ้าเป็นไปได้ขอแนะนำให้ไปซื้ออาหารที่ทำสดๆแล้วเรารับประทานเลยจะดีกว่า อย่าให้การรับประทานของเราเป็นไปเพื่อตอบสนองความอิ่มเลย เพื่อสุขภาพที่ดีของเราในวันข้างหน้า

ผิดถูกคืออะไร : ขอบเขตความคิดและสิทธิเสรีภาพนักศึกษา

วันจันทร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2556

น้าจับหลานเรียกค่าไถ่

เมื่อวันที่ 16 ก.ย. กรณีนักศึกษาหนุ่ม ปวช. ถูกกลุ่มคนร้ายอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ก่อเหตุจับตัวขึ้นรถไปขังอยู่ที่เซฟเฮาส์ เมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา ก่อนจะบังคับข่มขู่เรียกค่าไถ่จากผู้ปกครองกว่า 500,000 บาท ล่าสุดได้มีการจับกุมตัวผู้ก่อเหตุและผู้ร่วมขบวนการได้แล้ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 ได้เปิดแถลงข่าวจับกุมตัวกลุ่มคนร้ายที่ร่วมกันอ้างเป็นตำรวจ ก่อเหตุลักพาตัว นายอดิศร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี นักศึกษา ปวช. สถาบันแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ โดยจับตัวเหยื่อจากหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง บริเวณถนนคันคลองชลประทาน ไปขังไว้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ก่อนจะโทรศัพท์เรียกค่าไถ่จากแม่ของนายอดิศร
ภายหลังจากเกิดเหตุ ตำรวจชุดสืบสวนภาค 5 และ สภ.ช้างเผือก ได้เร่งแกะรอยและคลี่คลายคดีดังกล่าว พบว่ามีการวางแผนก่อเหตุอย่างเป็นขั้นเป็นตอน กลุ่มคนร้ายได้ใช้เฟซบุ๊กติดต่อกับ นายอดิศร ใช้หญิงสาวหน้าตาดี ทำทีดีสนิทในเฟซบุ๊ก เพื่อให้เหยื่อตายใจ ก่อนจะนัดกันไปเจอที่หน้าโรงแรม และก่อเหตุจับกุมตัวไปเรียกค่าไถ่ ต่อมาจึงทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายรุ่งโรจน์ แซ่หลี่ อายุ 34 ปี มีศักดิ์เป็นน้าแท้ๆ ของนายอดิศร และ นายศิวกร พันธุศิลป์ อายุ 21 ปี เป็นญาติของนายอดิศร
เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัว นายรุ่งโรจน์ และ นายศิวกร ได้ที่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ หลังพยายามขับรถหลบหนี ตรวจค้นพบโทรศัพท์ไอโฟน 5 พร้อมทั้งของกลางอื่นๆ ส่วนรถเก๋งที่ผู้ต้องหาใช้ขับหลบหนีเป็นรถที่ถูกแจ้งหายเอาไว้ที่ สน.ดอนเมือง เมื่อปี 2555
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายให้การรับสารภาพว่า เป็นญาติของนายอดิศร และรู้จักกับแม่ของเหยื่อเป็นอย่างดี อ้างว่าเป็นเรื่องล้อเล่นกับหลานเฉยๆ ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องราวใหญ่โต เพราะแม่ของนายอดิศรรักลูกชายคนนี้มาก จึงได้วางแผนกันใช้เฟซบุ๊กหลอกล่อจับตัวไปเรียกค่าไถ่
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังเปิดเผยว่า ผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุยังหลบหนีอีก 1 ราย ทราบชื่อคือ นายเดิม เป็นการ์ดประจำสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 อ้างว่าเป็นผู้ร่วมขบวนการและวางแผนเรียกค่าไถ่ พร้อมทั้งได้เงินส่วนแบ่งไปเยอะที่สุด ขณะที่ นางสาวเฟิร์น นางนกต่อที่ติดต่อเหยื่อทางเฟซบุ๊กนั้น ได้ควบคุมตัวเป็นพยานไว้แล้ว ส่วน นายปรีชา หวานเครือ อายุ 26 ปี อีกหนึ่งผู้ร่วมขบวนการที่เป็นผู้กดเงินค่าไถ่มาจากเอทีเอ็ม ถูกจับตัวได้ก่อนหน้านี้แล้ว

ธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตรัฐต้องการให้ผู้ค้าแสดงตนเะพื่อเข้าระบบ

การทำธุรกิจบนอินเตอร์เน็ต หรือธุรกิจ E – Commerce ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายผ่านโซเชียลเน็ทเวอร์ค เช่น  Facebook Instagram  E-bay เป็นต้น หลายคนมีความเข้าในว่า การทำธุรกิจดังกล่าวได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งความจริงมิได้เป็นเช่นนั้น บทความนี้จะได้กล่าวถึงความรับผิดทางภาษีต่างๆ ของผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าว
บุคคลผู้มีเงินได้ทุกคนไม่ว่าจะมีเงินได้จากแหล่งใดก็ตามมีหน้าที่เสียภาษีตามกฎหมาย และเนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายเกี่ยวกับภาษี E-Commerce โดยเฉพาะ ดังนั้น  การประกอบธุรกิจออนไลน์  หรือ บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตจึงเป็นเพียงการเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายเท่านั้น สำหรับการเสียภาษีก็ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เดิม โดยผู้ประกอบธุรกิจจะต้องเสียภาษีภายใต้ประมวลกฎหมายรัษฎากรเหมือนธุรกิจอื่นๆ  ได้แก่ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือภาษีเงินได้นิติบุคคล แล้วแต่กรณี ซึ่งคำนวณจากเงินได้ของบุคคลใดๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่  1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม ของทุกปีตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด และต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หากผู้ประกอบธุรกิจไม่ว่าบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล มีรายได้จากการขายสินค้าหรือให้บริการเกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี มีหน้าที่ต้องยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เพื่อเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย โดยคำนวณภาษีที่ต้องเสียจากภาษีขายหักด้วยภาษีซื้อ นอกจากนี้ หากมีการจัดส่งสินค้าไปให้ลูกค้าที่ต่างประเทศผู้ประกอบการจะได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อย่างไรก็ตาม การซื้อขายสินค้าที่ไม่มีรูปร่างหรือไม่สามารถจับต้องได้ เช่น โปรแกรม ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ จึงไม่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ฉะนั้นธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตรัฐต้องการให้ผู้ค้าแสดงตนเพื่อเข้าระบบการเสียภาษี หากผู้ค้าไม่เข้าระบบไม่แจ้งไม่แสดงตน กรมสรรพกรก็ไม่สามารถตรวจสอบการทำธุรกรรมได้ จึงยากที่จะเข้าไปจัดการให้ผู้ค้าต้องเสียภาษีตามกฎหมายได้เช่นกัน

การสร้าง"สะพานวงแหวนอุตสาหกรรม"

วันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2556

ตำนานอธิบดี DSI นายธาริธ เพ็งดิษฐ์

จากคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบต่ออายุราชการให้ธาริตออกไปอีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย. 2556-18 ก.ย. 2557 หลังดำรงตำแหน่งครบ 4 ปี
ธาริตย้ายจากตำแหน่งเลขาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เมื่อกลางเดือน ต.ค. 2552 และร่วมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ล้างบางเสื้อแดงเมื่อปี 2553 ในสมัยที่อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี
จนกระทั่ง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ได้เกิดกระแสข่าวธาริตอาจจะถูกย้ายไปอยู่สำนักข่าวกรองแห่งชาติ แต่สุดท้ายก็เป็นเพียงข่าวลือเพราะสามารถนั่งบัลลังก์ดีเอสไอได้อย่างคงกระพัน
นับจากนั้นเป็นต้นมาธาริตทำผลงานเข้าตารัฐบาลเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการที่รัฐบาลใช้ดีเอสไอเป็นอาวุธหนักถล่มพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)|อยู่หลายคดี
เริ่มตั้งแต่ 1.คดีสั่งการสลายการชุมนุม ปี 2553 มีประชาชนเสียชีวิต 98 คน ที่มี อภิสิทธิ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี กับสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีขณะนั้น ในฐานะผู้อำนวยการ ศอฉ. เป็นผู้ต้องหา ซึ่งอัยการสั่งเลื่อนคดี โดยหากเห็นสั่งฟ้องก็ยังไม่สามารถฟ้องได้ เพราะอยู่ในสมัยประชุมสภา
ในขณะที่ศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำสั่ง 6 คน ที่วัดปทุมวนารามเสียชีวิตจากปืนของทหาร และไม่มีชายชุดดำในที่เกิดเหตุ
2.คดีทุจริตสร้างโรงพักทดแทน 396 แห่ง คดีและทุจริตสร้างแฟลตตำรวจ ตามรายภาคที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เสนอ แต่กลับให้รวมสัญญาการจัดซื้อจัดจ้างเพียงรายเดียว ทำให้บริษัทที่ได้ประมูล คือ บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์คอนสตรัคชั่น เป็นผู้ชนะการประมูล จนเกิดเป็นปัญหาที่ไม่สามารถก่อสร้างได้แล้วเสร็จตามสัญญา โดยเป้าพุ่งเข้าหาเทพเทือกในฐานะรองนายกรัฐมนตรีขณะนั้น รวมถึงอภิสิทธิ์ฐานะนายกรัฐมนตรี ในข้อหาละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือทุจริต มาตรา 157
ทั้งนี้ ดีเอสไอได้ยื่นเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ซึ่งประเด็นการปลอมลายมือของผู้กำกับโรงพักยังอยู่ระหว่างการสอบสวนอยู่ 
ส่วนเรื่องการรวมสัญญาการสร้างโรงพักทดแทนและแฟลตตำรวจ ซึ่งดีเอสไอเห็นว่าไม่ถูกต้องนั้น ขณะนี้ ป.ป.ช.ได้ตั้งอนุกรรมการไต่สวนอภิสิทธิ์หัวหน้าพรรค ปชป. และสุเทพ สส.สุราษฎร์ธานี พรรค ปชป. ที่เข้าข่ายความผิดแล้ว
3.คดีต่อสัมปทานรถไฟฟ้าบีทีเอส ที่ดีเอสไอร้องทุกข์กล่าวโทษกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และพวกต่อสัญญาเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยายออกไป 13 ปี และการขยายเส้นทางสัมปทานใหม่โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก รมว.มหาดไทย เข้าข่ายร่วมกันประกอบกิจการค้าขายอันเป็นสาธารณูปโภค หรือกิจการรถรางโดยไม่ได้รับอนุญาต
โดยทันทีที่ดีเอสไอขยับคดีนี้ในช่วงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เมื่อต้นปี 2556 ส่งผลให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ออกอาการเซไม่น้อย ก่อนที่จะสรุปสำนวนส่งให้อัยการฟ้องศาลแต่ล่าสุดอัยการตีกลับสำนวนคืนมาที่ดีเอสไอ เนื่องจากเห็นว่า ป.ป.ช.เป็นหน่วยงานที่มีอำนาจไต่สวนคดีนี้ ทำให้ดีเอสไอต้องส่ง ป.ป.ช.รับไม้ต่อแทน
4.คดีทุจริตจัดซื้อครุภัณฑ์อาชีวศึกษา ภายใต้โครงการแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยเข้มแข็งระยะที่ 2 ในวงเงินงบประมาณ 5,300 ล้านบาท ที่คณะทำงานสืบสวนสอบสวนได้สรุปสำนวนคดีพิเศษ กล่าวหา ชินวรณ์ บุณยเกียรติ อดีต รมว.ศึกษาธิการ นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ อดีต รมช.ศึกษาธิการ และพวก ในมาตรา 157
5.คดีเงินบริจาคเข้าพรรค ปชป. ล่าสุดคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติให้ยุติการสอบคดีเงินบริจาคเข้าพรรค ปชป. ด้วยการหักเงินเดือน สส. ระบุไม่ขัด พ.ร.บ.พรรคการเมือง เพราะเป็นการกระทำโดยสุจริต สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินได้และจะไม่ส่งความเห็นใดๆ ให้ดีเอสไอ ซึ่งคดีนี้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษกับ สส.พรรค ปชป. จำนวน 48 คน โดยมี สส.15 คน ไม่มารับทราบข้อกล่าวหา
จากคำพูดของธาริตที่เคยกล่าวไว้ว่า เมื่อรัฐบาลเป็นฝ่ายบริหาร ฝ่ายข้าราชการประจำเป็นฝ่ายปฏิบัติ และดีเอสไอก็เป็นฝ่ายปฏิบัติ ถ้าไม่เป็นเครื่องมือให้รัฐบาลแล้ว แล้วจะให้เป็นเครื่องมือใคร
จึงไม่แปลกหากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะตกรางวัลให้กับธาริตอีก 1 ปี โดยหวังผลสูงสุดถึงการยุบพรรค ปชป.

ถ่ายไฟรถยาวๆ CityScape

วันพุธที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2556

คาดอาหารจานเดียวแตะ50บ.ปลายปี

นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า ปัจจัยค่าครองชีพที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรัฐบาลประกาศปรับราคาแก๊สแอลพีจีภาคครัวเรือนขึ้นกิโลกรัมละ 50 สตางค์ ค่าไฟฟ้า ค่าทางด่วน ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการร้านอาหารแบกรับภาระต้นทุนค่าบริหารจัดการเพิ่ม ขึ้น 30% ซึ่งเชื่อว่าปลายปีนี้ราคาอาหารจานเดียวจะปรับราคาเป็นจานละ50 บาท จากปัจจุบันเฉลี่ยจานละ 30-35 บาท

วันอังคารที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2556

ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านในเมือง...พูดทุกวันว่า คนไทยต้องปรองดองและสามัคคีกัน มาวิเคราะห์ว่า ปัญหามันอยู่ตรงไหน?

บทความ ตอนค่าของคนไทยไม่เท่ากัน!
ปํญหา...ราคายางภาคใต้ ประชาชนชาวสวนยางถูกรังแก ถูกปล่อยให้เป็นปัญหาเรื้อรังและเดือดร้อนหนักเหตุเพราะ คนภาคใต้ส่วนใหญ่ปลูกสวนยางเป็นอาชีพหลัก ส่วนปัญหาราคายางภาคอื่นๆ ม็อบสวนยางเลิกหมดแล้ว ตามเงื่อนไขชาวสวนยางภาคเหนือหรืออีสานถือว่าเป็นสวนยางที่เพิ่งปลูก บางแห่งอายุไม่ถึง 7 ปียังไม่สามารถกรีดยางได้ เมื่อได้รับทั้งราคารับซื้อที่ 80 บาท รวมทั้งค่าปุ๋ยอีก 1,260 บาทต่อไร่ บางแห่งยังกรีดไม่ได้ก็ได้ค่าปุ๋ยไปก็พอใจ  ความเหลื่อมล้ำ ความไม่เป็นธรรม ความยากจน รัฐบาลเป็นตัวแบ่งฝักแบ่งฝ่ายแยกพวกให้กับประชาชน สรุป. นักการเมืองเล่นกันแบบนี้ ประชาชนในประเทศก็จะไม่สามัคคีกัน บ้านเมืองก็จะมีปัญหาไปไม่รู้จบ...

วันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2556

เครื่องบินการบินไทย ไถลออกนอกรันเวย์

เมื่อเวลา 23.30 น. วานนี้ (8 ก.ย.)  เครื่องบินการบินไทย TG679กวางโจว -กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเครื่องแอร์บัส 330 ได้เกิดไถลออกนอกรันเวย์ 19 ฝั่งตะวันออก จากนั้นที่บริเวณเครื่องยนต์ที่ 2ขวา ได้เกิดเพลิงลุกไหม้ ใบพัดหัก ขณะลงจอดสุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสนามบินต้องระดมช่วยกันดับเพลิง และเคลื่อนย้ายผู้โดยสาร มีผู้โดยสาร287 ราย ลูกเรืออีก 14 ราย รวมเป็น 301 ราย เบื้่องต้นทราบว่ามีผู้บาดเจ็บ 12 คน โดยมีอาการตกใจและสำลักควัน

 สำหรับเที่ยวบินดังกล่าว มีคณะของชาญชัย ชัยรุ่งเรือง และนาย วีรภาพ ดารานักแสดงของช่อง7 และซินแสภาณุวัตร เดินทางมาด้วย และยังมีนายนายโฆษิต สุวินิจจิต ผู้บริหาร สปริงนิวส์ อดีตผู้สมัครผู้ว่า กทม. ร่วมเดินทางมาด้วย

ข่าวรายงานว่า เฟซบุ้คลูกสาวของนายโฆษิต ตอนหนึ่งได้เขียนระบุได้ว่า "เอะใจตั้งแต่เครื่องดีเลย์ถึง 3 ครั้ง แต่คิดว่าคงไม่มีเหตุร้ายแรง จนกระทั่งเห็นพยาบาลฉุกเฉินวิ่งกันรอบสนามบิน และมีเสียงคนบอกว่า fight นี้ระเบิดไฟไหม้ รู้สึกตัวเบา น้ำตาไหลพราก รู้อย่างเดียว ถ้าพ่อเป็นอะไรไปเราคงอยู่ไม่ได้แน่ ๆ ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทำให้พ่อรอดมาได้ ถึงแม้จะรอดมาอย่างมอมแมมเศษดินเต็มขา แค่รู้ว่าพ่อปลอดภัยก็วิเศษสุดแล้ว "

ขณะที่นางระวีวรรณ เนตระคเวสนะ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่า ได้เกิดเพลิงไหม้ที่เครื่องยนต์ที่ 2 ทำให้เครื่องต้องลงจอดฉุกเฉิน สไลด์ออกทางด้านข้าง ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวจีน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส มีแต่เพียงบาดเจ็บเล็กน้อย

ขออวยพรให้เพื่อนเฟสบุกค์และเพื่อนทวิตเตอร์ที่เกิดวันนี้ทุกคนค่ะ.

วันเสาร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2556

กฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 นั้นสำคัญอย่างไร ส.ส.รัฐบาลกำลังจะแก้ไขเพื่อกู้เงินได้โดยไม่ต้องถามประชาชน.

บทความ ส.ส.รัฐบาลจะแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 เพื่อมีอำนาจไปทำสัญญากู้เงินกับต่างประเทศ จำนวน 2.2 ล้านๆบาท พร้อมค่าดอกเบี้ย 3.3 ล้านๆบาท รวมเป็นเงิน 5.5 ล้านๆบาท เพื่อนำไปสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง สรุป ประเทศไทยเศรษฐกกิจทรุดทันทีเพราะ ต้องใช้หนี้เป็นระยะเวลา 50 ปี ส่วนนักการเมือง นายก รัฐมนตรี ส.ส. พรรครัฐบาลก็จะได้เงินทอนจากเงินกู้รวยกันกระจุก แต่ลูกหลานไทยจนกระจาย!
มาตรา 190 “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการทำหนังสือสัญญาสันติภาพ สัญญาสงบศึก และสัญญาอื่นกับนานาประเทศหรือกับองค์การระหว่างประเทศ หนังสือสัญญาใดมีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทย หรือเขตพื้นที่นอกอาณาเขต ซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตยหรือมีเขตอำนาจตามหนังสือสัญญาหรือตามกฎหมายระหว่างประเทศ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามหนังสือสัญญา หรือมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจหรือสังคมของประเทศอย่างกว้างขวาง หรือมีผลผูกพันด้านการค้า การลงทุน หรืองบประมาณของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ ต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา ในการนี้ รัฐสภาจะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับเรื่องดังกล่าว ก่อนการดำเนินการเพื่อทำหนังสือสัญญากับนานาประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศตามวรรคสองคณะรัฐมนตรีต้องให้ข้อมูลและจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และต้องชี้แจงต่อรัฐสภาเกี่ยวกับหนังสือสัญญานั้น ในการนี้ ให้คณะรัฐมนตรีเสนอกรอบการเจรจาต่อรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบด้วย เมื่อลงนามในหนังสือสัญญาตามวรรคสองแล้ว ก่อนจะแสดงเจตนาให้มีผลผูกพัน คณะรัฐมนตรีต้องให้ประชาชนสามารถเข้าถึงรายละเอียดของหนังสือสัญญานั้น และในการที่การปฏิบัติตามหนังสือสัญญาดังกล่าวก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนหรือ ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม คณะรัฐมนตรีต้องดำเนินการแก้ไขหรือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบนั้นอย่างรวดเร็ว เหมาะสม และเป็นธรรม ให้มีกฎหมายว่าด้วยการกำหนดขั้นตอนและวิธีการจัดทำหนังสือสัญญาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจหรือสังคมของประเทศอย่างกว้างขวาง หรือมีผลผูกพันด้านการค้า หรือการลงทุน อย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งการแก้ไขหรือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติตามหนังสือสัญญาดังกล่าวโดยคำนึงถึงความเป็นธรรมระหว่างผู้ที่ได้ประโยชน์กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิวัติตามหนังสือสัญญานั้นและประชาชนทั่วไป

กฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 นั้นสำคัญอย่างไร ส.ส.รัฐบาลกำลังจะแก้ไขเพื่อตัดสิทธิประชาชน

บทความ คนดูไบคำรามสักวันผมมาจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน กฎหมายนี้ถ้าแก้ไขแล้ว ต่อไปพรรคการเมืองของรัฐบาลกระทำการทุจริต โกงกิน กระทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ประชาชนจะไปฟ้องตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ ต้องไปเสนอต่อสนง.อัยการสูงสุด ถ้าท่านอัยการสูงสุดเป็นขี้ข้ารัฐบาล ผล ความผิดที่รัฐบาลทำก็จะจบและเงียบหายไปโดยชอบด้วยกฎหมาย สรุป รัฐบาลที่โกงชาติแก้กฎหมายนี้เสร็จก็ใหญ่สุดแล้ว ทุจริตอะไรกฎหมายที่มีใช้ก็ไปไม่ถึง!

มาตรา ๖๘ (วรรคหนึ่ง) "บุคคลจะใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ เพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญนี้ หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอํานาจในการปกครองประเทศ โดยวิธีการ ซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนี้ ... มิได้" มาตรา ๖๘ (วรรคสอง) "ในกรณีที่บุคคลหรือพรรคการเมืองใดกระทําการตามวรรคหนึ่ง ผู้ทราบการกระทําดังกล่าวย่อมมีสิทธิเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริงและยื่นคําร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทําดังกล่าว แต่ทั้งนี้ไม่กระทบกระเทือนการดําเนินคดีอาญาต่อผูกระทําการดังกล่าว” ๑.ในกรณีที่บุคคลหรือพรรคการเมืองใดกระทําการตามวรรคหนึ่ง ๒.ผู้ทราบการกระทําดังกล่าวย่อมมีสิทธิเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบขอเท็จจริงและยื่นคํารองขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทําดังกล่าว .....นี่คือลายลักษณ์อักษร แห่งรัฐธรรมนูญ ว่าไว้ชัดแล้ว ถ้าเป็นอย่างที่ท่านนักแก้รัฐธรรมนูญต้องการ ก็ต้องมีลายลักษณ์อักษร ว่า ........."เมื่อเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริงและอัยการสูงสุดได้ความจากการตรวจสอบข้อเท็จริงว่าการกระทำดังกล่าวขัดต่อวรรคหนึ่งจริง ก็ให้อัยการสูงสุดยื่นคำร้องหรือคำฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งหรือคำพิพากษาให้ผู้กระทำยุติการกระทำดังกล่าวต่อไป"......แต่รัฐธรรมนูญ ไม่ได้บัญญัติอย่างนี้.....ท่านจะเดินไปที่อัยการสูงสุดทางเดียวไม่ได้.....ท่านก็จำจะต้องเคารพลายลักษณ์อักษรแห่งรัฐธรรมนูญ บทบัญญัติวรรคสอง กล่าวไว้ชัด ด้วยคำว่า....."ย่อมมีสิทธิ".....ฉะนั้น ผู้ทราบการกระทำดังกล่าวตามมาตรา ๖๘ วรรคหนึ่ง....."ย่อมมีสิทธิ"..... ๒ ประการ ในเวลาเดียวกัน คือ.....สิทธิประการที่ ๑.คือ "สิทธิที่จะเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริง".....และสิทธิประการที่ ๒.คือ ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าว.....คำว่าสิทธิไม่ใช่หน้าที่.....สิทธิ.....ใช้ก็ได้.....ไม่ใช้ก็ได้.....หรือ......เลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่างพร้อมกันได้ .....เจ้าของสิทธิตามรัฐธรรมนูญวรรคสอง คือใคร?.....ตอบว่า คือ ประชาชนชาวไทยทุกคนที่พบเห็นหรือทราบการกระทำ.....ถ้าเจ้าของสิทธิ......ไปแจ้งต่ออัยการสูงสุด ก็เป็นทำนองเดียวกับการร้องทุกข์กล่าวโทษในทางอาญา อัยการสูงสุดในฐานะเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ท่านจะตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือท่านจะเพิกเฉยในหน้าที่ ท่านก็รู้อยู่แก่ใจดี.....ถ้าเจ้าของสิทธิ.....ไปยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญ ท่านจะสั่งการอย่างไร ท่านก็รู้หน้าที่ของท่านอยู่ เช่นเดียวกัน เพราะท่านทำของท่านอยู่แล้ว คือตราบใดที่ยังไม่มีวิธีพิจารณาในลักษณะเฉพาะเรื่องนี้ ศาลท่านก็หยิบยกเอามาตรา ๔ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาใช้กับเรื่องนี้เพื่อวินิจฉัยสั่งการ ซึ่งถูกต้องตามหลักกฎหมาย

สุขสันต์วันเกิดส่งถึง...คุณYuyee SweetและคุณSurapat Piwpan

วันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2556

กรมสรรพากรค้านเก็บภาษีคนโสด

นางจิตรมณี สุวรรณพูล โฆษกกรมสรรพากร กล่าวว่า กรณีนักวิชาการเสนอแนวคิดให้จัดเก็บภาษีสำหรับคนโสด เพื่อเร่งรัดให้แต่งงานและมีบุตร เนื่องจากโครงสร้างประชากรในอนาคต เริ่มเข้ายุคคนชรามากขึ้นนั้น แนวคิดการจัดเก็บภาษีเงินได้ของกรมสรรพากร ยึดหลักเรื่องความเท่าเทียม และจัดเก็บบนพื้นฐานเงินได้ของแต่ละบุคคล โดยไม่ได้มุ่งเน้นกลุ่มบุคคลจะมีสถานะใด หากมีเงินได้ต้องมีหน้าที่ต้องเสียภาษีในอัตราเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นคนโสด หรือมีคู่สมรส
สำหรับการปรับปรุงโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในแต่ละครั้ง กรมสรรพากรจะเน้นเรื่องการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เสียภาษีและความเท่าเทียมกัน ระหว่างหญิงและชาย รวมถึงใช้เครื่องมือในการกระจายรายได้ หากผู้มีเงินได้สูงต้องเสียภาษีสูงในอัตราก้าวหน้า แต่ไม่เคยมีการใช้ภาษีเป็นเครื่องมือในการส่งเสริมการเพิ่มประชากรหรือการลด ภาระทางสังคม เพราะคงไม่ใช้หน้าที่หลักของระบบภาษีเป็นเครื่องของรัฐทางด้านเศรษฐกิจในการ หารายได้ให้รัฐและส่งเสริมให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจมากกว่า

“ข้อเสนอดังกล่าวขึ้นกับการเลือกของรัฐบาลว่าจะพิจารณานำมาศึกษาให้ ชัดเจน ปัจจุบันมีจำนวนผู้เสียภาษี 10 ล้านคน โดยต้องดูว่าจำแนกเป็นคนโสดหรือสมรสได้หรือไม่ และมองว่าการตัดสินใจมีบุตร หรือเลี้ยงดูบุตรได้หรือไม่ ปัจจัยด้านภาษีคงไม่ใช่ปัจจัยหลัก แต่อยู่ที่ความสามารถในการเลี้ยงดูมากกว่า ขณะที่คนโสดหากมีเงินได้ และมีวางแผนดีสามารถหาเลี้ยงตัวเอง มีเงินสะสมเพียงพอสำหรับการใช้จ่ายยามชราก็จะไม่เป็นภาระแก่สังคม” โฆษกกรมสรรพากรกล่าว

วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2556

ตำรวจกองปราบจับกุมเจ้าของ บริษัทรับจัดทัวร์ท่องเที่ยวหนีคดีฉ้อโกงประชาชน

เวลา 12.30 น.วันที่ 5 ก.ย. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.ท.พรัชต์ศรุต วัชรธนโยธิน สว.กก.1 บก.ป.พร้อมกำลังเข้าจับกุม นายธีระพล พงษ์เวช อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/1 หมู่ 4 ต.องค์พระ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เจ้าของ หจก.คลับฮอริซ้อน รับจัดทริปเดินทางท่องเที่ยวยังต่างประเทศ ตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ 1359/2553 ลงวันที่ 8 มิ.ย. 2553 ข้อหาฉ้อโกงประชาชน จับกุมได้ที่ถนนหน้าโรงเรียนหอวัง แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.
 
 สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปี 2553 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด ได้ซื้อทัวร์กับทาง หจก.ดังกล่าวของ นายธีระพล เพื่อเดินทางไปประเทศเกาหลีใต้ เป็นจำนวน 25 คน รวมเป็นเงิน 405,000 บาท แต่เมื่อจ่ายเงินไปแล้ว กลับไม่ได้เดินทางตามที่มีการจัดทริปดังกล่าว ต่อมาบริษัทผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความดำเนินคดี ก่อนจะมีการขออนุมัติศาลออกหมายจับเอาไว้ กระทั่งชุดสืบสวน สืบทราบว่า นายธีระพล ได้หลบหนีไปอาศัยอยู่ที่ย่านโพธิ์สามต้น แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กทม.จึงวางแผนสืบสวนติดตามจับกุมตัวไว้ได้ดังกล่าว

สอบสวนนายธีระพล รับสารภาพว่า เปิด หจก.รับจัดทัวร์ท่องเที่ยวมาตั้งแต่ปี 2548 ต่อมาเมื่อปี 2553 ได้สั่งซื้อตั๋วเครื่องบินเดินทางไปประเทศเกาหลีใต้ จากเอเย่นต์ซี่รายหนึ่งย่านรังสิต เพื่อจะนำมามอบให้กับลูกค้า คือ บริษัทผู้เสียหาย แต่ทางเอเย่นต์ซี่รายดังกล่าว กลับไม่นำตั๋วเครื่องบินมาให้จึงไม่สามารถนำมาให้ลูกค้า เมื่อทราบว่าถูกแจ้งความดำเนินคดี จึงหลบหนีคดี ก่อนจะมาถูกจับกุม อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบประวัติของนายธีระพล พบว่ามีหมายจับคดีฉ้อโกงประชาชน ติดตัวอยู่ถึง 10 คดี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายธีระพล ส่งพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ดำเนินคดีต่อไป

ใช้แก๊สน้ำตาสลายม็อบจ.ประจวบ ตำราจยอมรับ


ภาพเป็นข่าว...

ข่าวด่วน.
5 ก.ย. เวลา 17.30 น. ตำรวจปราบจราจล 5 กองร้อยประมาณ 750 คนลุยทุบตีประชาชนชาวสวนยางที่ จุดบางสะพาน จ. ประจวบคีรีขันธ์ ล่าสุดตำรวจได้อุ้มแกนนำหายตัวไป...เวลาขณะนี้ชาวบ้านไม่พอใจตำรวจ ได้ทยอยออกมาเพิ่มจำนวนมาก ส่วนการประชุมที่รัฐสภาไม่สามารถตกลงการประชุมต่อเรื่องถามตอบกระทู้สดปัญหาชาวสวนยาง ส่วนนายกรัฐมนตรีในคณะรัฐบาลไม่ยอมข้อเรียกร้องรับการประกันราคายางที่ก.ก.ละ 102 บาท 

ย่านอ้ายบ่ฮัก

ร้องเรียน...นายกรัฐมนตรี แก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ

ส่งสาสน์ถึง...นายกรัฐมนตรี ป้าปู 1. ทำไมไม่ลงมาดูแลชาวสวนยางภาคใต้ที่เดือดร้อน 2. จะมาชดเชยเป็นค่าปุํย 1260 บาท สำหรับชาวสวนยางนั้นมันไม่ตรงปัญหา 3. โจทย์ให้ช่วยยาง ก.ก. ละ 120 บาท พวกขึ้นไปเจรจาที่ กทม. บอกเหลือ 102 บาท 4. พอมาเป็นข่าว ผู้ที่เจรจาฝ่ายรัฐบาลกลับไม่มีอำนาจตัดสินใจ และบอกว่า เรื่องราคายังไม่สามารถตกลงได้ 5. นายกป้าปู ลองแหกตาดูภาพชาวสวนยางจ.สุราษฏร์ธานี ประชาชนออกมาขนาดนี้ ถ้าไม่เดือดร้อนเรื่องราคายาง เรื่องปากท้อง ก็คงไม่ออกมาหรอกนะ แต่ดันให้ ส.ส. เพื่อไทยออกข่าวว่าม็อบการเมือง 6. ไหนบอกว่าจะไม่ใช้ความรุนแรง ที่ประชาชนตายนั้นเป็นเรื่องอ่อนโยนหรือ สรุป... ป้าปูช่วยชาวสวนยาง ซื้อยางไป เดี๋ยวก็ไปขายให้จีน อินโด ก็ได้ ถ้าทำได้จะรักเธอตลอดไป ถ้าทำไม่ได้ แต่เลือกไปรับจำนำข้าวนาปีตันละ 15,000 บาท ข้าวนาปรังตันละ 13,000 บาท แล้วข้าวก็เน่า ตอนนี้ก็ขายข้าวให้ใครไม่ได้สักประเทศ ขอให้เธอกลับใจ คิดดีๆ ก่อนที่ประชาชนจะทนไม่ไหว...ออกมาไล่เธอแบบหมูแบบหมานะค่ะ.

วันพุธที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2556

หนุ่มพะเยาคว้าลูกซองยิงแฟนสาวเสียชีวิตก่อนฆ่าตัวตายตาม คาดปมหึงหวงเล่นไลน์กับเพื่อนชาย

4 ก.ย. พ.ต.ท.กันต์ศักดิ์ สุรินทชัย รอง ผกก.สส.สภ.จุน เปิดเผยว่าได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันในพื้นที่หมู่ 1ต.ทุ่งรวงทอง อ.จุน จ.พะเยา มีผู้เสียชีวิต 2 ราย โดยที่เกิดเหตุอยู่ในบ้านพักแห่งหนึ่งใน ต.ทุ่งรวงทอง เจ้าหน้าที่พบศพ หญิงอายุ 19 ปี ถูกยิงด้วยปืนลูกซองเข้าที่ท้ายทอย ใกล้กันพบศพชายอายุ 27 ปี นอนเสียชีวิตในสภาพกอดปืนลูกซองยาวมีบาดแผลถูกยิงที่กกหูขวา จากการสอบสวนเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุฝ่ายชาย ได้ทะเลาะกับฝ่ายหญิงบนรถยนต์ระหว่างทางจากบ้านฝ่ายหญิงมาที่บ้านฝ่ายชาย เมื่อมาถึงบ้านญาติฝ่ายชายได้ลงมาห้ามปราม เนื่องจากทั้งสองทะเลาะกันอย่างรุนแรง ฝ่ายชายได้บันดาลโทสะคว้าปืนลูกซองยิงฝ่ายหญิงเสียชีวิตและยิงตัวตายตาม ทั้งนี้พยานให้การว่า สาเหตุการมีปากเสียงจนนำไปสู่การยิงกันเกิดจากความหึงหวง เนื่องจากฝ่ายหญิงได้ใช้โปรแกรมไลน์สนทนากับเพื่อนชายผ่านทางโทรศัพท์ โดยฝ่ายชายไม่พอใจและได้กล่าวตักเตือนแต่ไม่เป็นผลจนทำให้เกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรงและเกิดเหตุยิงกันในที่สุด

อัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง “ไอ้บอล” พร้อมพวกรวม 6 คน คดีร่วมกันปล้นฆ่า “เอกยุทธ” ใน 8 ข้อหาฉกรรจ์ พร้อมคัดค้านประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง เกรงจำเลยหลบหนี ศาลนัดสอบคำให้การจำเลยวันนี้

วานนี้ (4 ก.ย.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา แถลงความคืบหน้า คดีนายสันติภาพ เพ็งด้วง หรือบอล ผู้ต้องหาร่วมกันอุ้มฆ่านายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดังว่า อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทุกคนตามความเห็นของพนักงานสอบสวน โดยสั่งฟ้องนายสันติภาพ เพ็งด้วง หรือบอล , นายสุทธิพงษ์ พิมพิสาร หรือเบิ้ม , นายชวลิต วุ่นชุม หรือเชาว์ และนายทิวากร เกื้อทอง หรือทิว ผู้ต้องหาที่ 1-4 ฐานทำความผิดใน 8 ข้อหา โดยอัยการโจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 6-9 มิ.ย.2556 จำเลยที่ 1-4 ซึ่งมีอาวุธปืนออโตเมติก ขนาด .38 ยี่ห้อวอเตอร์ สมิธ แอนด์ เวสสัน และมีดไปบริเวณ ซ.ทาว์อินทาวน์ 21 ถ.ศรีวรา แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม. แล้วร่วมกันปล้นทรัพย์จากนายเอกยุทธ อัญชันบุตร อายุ 59 ปี อดีตนักธุรกิจ ด้านการเงิน และอสังหาริมทรัพย์ ผู้ตาย โดยลักเอาทรัพย์สินรวม 9 รายการ อาทิ เงินสด นาฬิกา สร้อยทองคำ พร้อมพระเลี่ยมทอง แหวนโทรศัพท์มือ และอื่นๆ รวมมูลค่า 6.6 ล้านบาท และจำเลยยังร่วมกันใช้อาวุธจี้บังคับ ข่มขู่ผู้ตาย จนเกิดความกลัว แล้วจำเลยใส่กุญแจมือ พาขึ้นรถยนต์ตู้ ทะเบียน ฮพ 9340 กรุงเทพ ตระเวนไปที่บ้านพักผู้ตาย 2 แห่งย่านทาวน์อินทาวน์ และย่านลาดกระบัง ยังทำกล้องวงจรปิดเสียหาย ก่อนที่พวกจำเลยจะบังคับผู้ตายออกเช็คเบิกเงินสด จำนวน 5 ล้านบาท ไปโดยทุจริต จากนั้นใช้กำลังกอดรัดผู้ตาย ด้วยการใช้ท่อนแขน บีบกดบริเวณลำคออย่างรุนแรง และอุดปากและจมูก ก่อนใช้เชือกรองเท้ารัดคอผู้ตายจนขาดอากาศหายใจ การกระทำของจำเลยที่ 1-4 มีเจตนาเพื่อฆ่าผู้ตาย โดยวางแผนไตร่ตรองไว้ก่อน และให้เพื่อสะดวกแก่การปล้นทรัพย์ หลังก่อเหตุ พวกจำเลยได้ร่วมกันนำศพผู้ตายไปฝังที่คันดิน ไร่นาสวนผสมทิ้งร้าง ที่ต.ชัยบุรี อ.เมือง จ.พัทลุง เพื่อปิดบังเหตุแห่งการตาย ส่วนจำเลยที่ 5-6 ซึ่งเป็นบิดา มารดา จำเลยที่ 1 ได้ร่วมกันลักของโจร เป็นเงินสดจำนวน 4,242,000 บาท ของผู้ตายที่ถูกปล้นไป กระทั่งวันที่ 12 มิ.ย.2556 เจ้าพนักงานได้จับกุมจำเลยที่ 1,3และ 4 ได้ ส่วนจำเลยที่ 5- 6 เข้าพบพนักงานสอบสวน โดยได้ทรัพย์สินของผู้ตายคืนมาได้จำนวน 4,658,030 บาท ส่วนจำเลยที่ 2 จับกุมได้เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.2556 ชั้นสอบสวนจำเลยที่ 1-2 รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนจำเลยที่ 3 สารภาพเฉพาะ ข้อหาเคลื่อนย้ายศพ และร่วมกันมีอาวุธปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต สำหรับจำเลยที่ 4 สารภาพเฉพาะข้อหาเคลื่อนย้ายศพ โดยจำเลยที่ 5,6 ให้การปฏิเสธ ข้อหารับของโจร ท้ายฟ้องอัยการโจทก์ ขอคัดค้าฯการประกันจำเลยที่ 1-4 เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะหลบหนี และขอให้ศาลมีคำสั่งริบของกลาง อาทิ โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ,เชือกผูกรองเท้า จอบขุดดิน 2 เล่ม และให้จำเลยที่ 1-4 ร่วมกันคืนหรือใช้ทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืน 6 รายการเป็นเงิน 1,941,970 บาท แก่ทายาทของผู้ตายด้วย ทั้งนี้ ศาลได้ประทับรับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำ อ. 3307/2556 และนัดสอบคำให้การจำเลยวันที่ 5 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น.

ส่งความสุขให้กันนั้นเธอคือ เพี่อน

วันเสาร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2556

การใดที่ปลุกใจ...ให้ทุกคนรักชาติ รักพระเจ้าอยู้หัว ให้รู้จักแยกคนไม่ดีที่มีอำนาจมิให้มาปกคร­องบ้านเมือง! ข้อความนี้ "ชอบด้วยกฎหมายและชอบด้วยศิลธรรม" ใครก็ตาม...ที่บังอาจดูหมิ่น เหยียดหยาม องค์พระมหากษัตริย์ของไทย ใครก็ตาม...ที่บังอาจมีพฤติกรรม ก่อการขบวนการล้มเจ้า ทำการเผยแพร่คลิปวีดีโอจำนวนมาก ให้ร้ายพระองค์ท่านในเว็บยูทรูปและใครก็ตา­มที่ออกมาปราศรัยเวทีเสื้อแดงของพรรคเพื่อ­ไทย พูดจาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มีเจตนากระทำผิดกฎหมาย มาตรา 112 ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญแห่งราชอณาจักรไทย คำถาม การกระทำเยี่ยงนั้น...พระองค์ท่านทรงไปทำอ­ะไรให้พวกคุณ!!! พลังแผ่นดิน! ทุกคนที่รักในหลวง...จะออกมาต่อต้านพวกคุณ­...ทุกรูปแบบ. ประเทศไทย!!! จะต้องมีการปฎิรูป เพื่อขจัดนักการเมือง ทุจริต โกงชาติ เป็นมะเร็งร้ายทำลายชาติถ้าไม่มีการทำอะไร­กับคนพวกนี้ ชาติก็จะไม่เหลืออะไร ไม่มีแม้ที่จะยืนให้ลูหลานไทยได้มีอนาคตเพ­ราะ ประชาชนอยู่อย่างลำบาก ฐานะยากจนลง ไม่รู้จะไปหากินอะไร ปัจจุบันมิว่าจะประกอบอาชีพอะไรก็แทบเอาตั­วไม่รอด นอกจากนักการเมืองที่ใช้อำนาจหาเงิน เมื่อปัญหานักการทุจริต โกงชาติ ไม่สามารถแก้ได้ในรัฐสภา ทางออกทุกคนคงรู้ว่า จะทำอย่างไร เพียงแต่จะมีผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองจะ­ออกมานำหรือเปล่า!!! หรือจะรอให้นักการเมืองแย่งอำนาจกัน หลอกใช้ประชาชน ใช้ข้าราชการเป็นเครื่องมือ แบ่งเป็นฝักเป็นฝ่ายให้มาฆ่ากัน จนบ้านเมืองเกิดจราจล เกิดกุลียุค แล้วนักการเมืองก็จะเรียกร้องให้มาปรองดอง­กันอีก คนแบบนี้อยู่ไปก็รกบ้านรกเมือง!!! "ชีวิต...เลือดเนื้อ...ข้าพุทธเจ้า...ขอมอ­บไว้แด่...พระเจ้าอยู่หัวแล้ว"

จับโกหกการปิโตเลี่ยมแห่งประเทศไทย ตอน ปตท. ปล้นประชาชน

สาวชาวเฟส...กับวิชาชีพของเธอ...