วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2556

คลิปพระดังพังงามั่วสีกาว่อนเน็ต




เผยพระฉาวเสพเมถุนกับสีกาสาวใหญ่ชาวภูเก็ต ที่แท้เป็นเจ้าอาวาสวัดป่าโมกข์ และเจ้าคณะอำเภอกะปง จ.พังงา หลังมีข่าวดังดอดพบเจ้าคณะจังหวัดพังงาตอนหัวรุ่งขอลาสิกขา ใส่ชุดขาวหายตัวเข้ากลีบเมฆ ขณะที่ลูกศิษย์ลูกหาช็อก! ไม่อยากเชื่อภาพในคลิปฉาวจะเป็น “อาจารย์หรีด” ที่มีชื่อเสียงในการปลุกเสกวัตถุมงคล ส่วนสีกาสาวใหญ่เก็บตัวเงียบ
       
       ภายหลังจากที่มีข่าวว่อนในโลกอินเทอร์เน็ตแฉพฤติกรรมพระดังเมืองพังงาเสพเมถุนกับสีกาสาวเศรษฐินีเมืองภูเก็ต เมื่อ 1-2 วันที่ผ่านมา ทำให้เป็นที่วิพากาวิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในโซเชียลเน็ตเวิร์ก ว่า พระรูปดังกล่าว และสีกาคนนั้นเป็นใครที่กล้าทำเรื่องเสื่อมเสียให้แก่วงการสงฆ์ จนขณะนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า พระรูปดังกล่าว คือ พระครูบุญญาภินันท์ หรืออาจารย์หรีด เจ้าอาวาสวัดป่าโมกข์ และเจ้าคณะอำเภอกะปง จ.พังงา ซึ่งเป็นพระที่มีชื่อเสียงในการปลุกเสกวัตถุมงคล มีลูกศิษย์ลูกหาในภาคใต้จำนวนมาก
 
       โดยล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (18 ก.ย.) ที่วัดประชุมโยธี (พระอารามหลวง) อ.เมือง จ.พังงา พระเทพปัญญาโมลี เจ้าคณะจังหวัดพังงา ได้เปิดเผยแก่ผู้สื่อข่าวว่า เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ พระครูบุญญาภินันท์ หรืออาจารย์หรีด เจ้าอาวาสวัดป่าโมกข์ อ.กะปง จ.พังงา และเจ้าคณะอำเภอกะปง ซึ่งเป็นพระหน้าคล้ายกับพระในคลิปฉาวได้เดินทางมายื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าโมกข์ ต.ท่านา อ.กะปง จ.พังงา และลาออกจากเจ้าคณะอำเภอกะปง พร้อมกับให้ตนเองทำการลาสิกขาให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยหลังจากลาสิกขาแล้วได้สวมใส่ชุดขาว และมีลูกศิษย์มารับออกไปจากวัดโดยไม่ได้แจ้งว่าเดินทางไปไหน
       
       โดยในช่วงค่ำของเมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) หลังจากมีข่าวฉาวออกไป ทางฝ่ายปกครองคณะสงฆ์ของจังหวัดพังงา ได้ดำเนินการสอบสวน พร้อมขอหลักฐานจากฝ่ายต่างๆ มาตรวจสอบดู และได้สอบถามไปยังเจ้าตัวซึ่งก็นิ่งไม่ยอมรับ หรือปฏิเสธ ต่อมา ในช่วง 21.00 น.ได้แจ้งว่า จะเดินทางมาพบกับเจ้าคณะจังหวัด หลังจากนั้นก็ได้เข้าพบในในช่วงเวลา 04.00 น. พร้อมกับกล่าวเพียงว่า ตนเองได้หมดวาสนาจะได้อยู่ใต้ร่มกาสาวพัสตร์ต่อไป พร้อมกับได้ฝากปัจจัยและงานต่างๆ ของวัดที่ยังค้างอยู่ ให้คณะสงฆ์ที่รับผิดชอบดำเนินการต่อไป
       
       “พระอาจารย์พ่อหรีดได้เดินทางเข้าพบ พร้อมกับขอลาสิกขา โดยไม่ได้ปฏิเสธเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด เพียงแต่นิ่งเฉย จึงเห็นว่าเป็นการอาบัติปาราชิกจริงๆ ซึ่งจริงๆ แล้วหากพระภิกษุสงฆ์ทราบว่ากระทำผิดร้ายแรงถึงขั้นอาบัติปาราชิกก็สามารถถอดผ้าเหลืองสละความเป็นพระสงฆ์ได้ด้วยตนเอง” เจ้าขณะจังหวัดพังงา กล่าวในที่สุด
       
       ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายในวัดป่าโมกข์ อ.กะปง ยังมีชาวบ้านบางส่วนที่เดินทางมาทำบุญที่วัด พร้อมทั้งนั่งเฝ้ารอที่บริเวณหน้ากุฎิ อาจารย์หรีด แต่มีการเขียนป้ายติดไว้ด้านหน้าว่า “พระอาจารย์ไม่อยู่” ภายในกุฎิเงียบเหงาปิดประตู่เงียบไม่มีพระ มีเพียงชาวบ้านที่มานั่งจับกลุ่มพูดคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องจริง เพราะที่ผ่านมา อาจารย์หรีด เป็นพระที่พัฒนาวัด จนมีชาวบ้านในหลายจังหวัดทางภาคใต้นับถือมาก บางรายเมื่อทราบว่าพระอาจารย์หรีดลาสิกขา ถึงกับร้องไห้น้ำตาไหลถึงกับเหตุการณ์ดังกล่าว