วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2555

الأخبار - قتلى بميانمار وضغوط دولية لوقف العنف دولي

إعلان الطوارئ بولاية راخين في ميانمار


أعلن رئيس ميانمار ثين سين حالة الطوارئ في ولاية راخين غربي البلاد، بعد أعمال عنف طائفي أسفرت عن سقوط عدد من القتلى والجرحى ومخاوف من توسعها وانتشارها.
وذكر التلفزيون الرسمي أن حالة الطوارئ ستفرض بالولاية بين الساعة السادسة مساء والسادسة صباحا بالتوقيت المحلي، عقب أعمال العنف بين مسلمين وبوذيين راح ضحيتها سبعة قتلى و17 جريحا.
وحذر المصدر من انتشار وامتداد الفوضى، وقال "هناك أناس يحاولون العبث بالأمن العام"، مشيرا إلى أن "التجمع وإلقاء الخطب والتحريض على أعمال الشغب أو المواجهات كلها أمور محظورة".
وتزايدت التوترات الدينية بشدة بعد مقتل عشرة مسلمين على يد حشد غاضب انهالوا عليهم بالضرب في جنوب ولاية راخين.
ثم قتل أربعة بوذيين الجمعة قبل اندلاع موجة ثانية من أعمال العنف السبت. لكن يبقى من الصعب معرفة الانتماء الإثني والديني للضحايا الثلاثة الآخرين. ودمر حوالي خمسمائة منزل بحسب وسائل الإعلام الرسمية.
واتهمت السلطات الروهينجيا المسلمين، الذين لا يعترف بهم كمواطنين من ميانمار، بالوقوف وراء أعمال العنف التي بدأت بالقرب من مونغداو على الحدود مع بنغلاديش.
وقد تجمع نحو ستمائة شخص الأحد في معبد شويداغون في يانغون الموقع الرئيسي للبوذية الوطنية، للمطالبة بإحقاق الحق مع عبارات لا تفرق بين المسلمين الهنود والبنغال والروهينجيا. وكتب على بعض اللافتات "لا مكان للإرهابيين البنغال" و"أنقذوا الراخين".
وقال رئيس شبكة الراخين الوطنية تين هتو أونغ إن أعمال العنف "تسيء إلى الأمن الوطني والمصالح الوطنية والقانون. وإنها ليست مشكلة البلاد فحسب بل أيضا مشكلة العالم أجمع".

والله اللي صار لأطفال فلسطين لا يبدو شيءا أمام ما يحدث لأطفال سوريا ... خلال سنة واحدة أكثر من 2500 طفل قتلوا في سوريا ... بعض منهم تم ذبحهم بالسكاكين ... وبعض منهم قتلهم نظام الأسد تحت التعذيب ... حتى اسرائيل لم تجرؤ على القيام بما يقوم به نظام عصابات الأسد ... في سوريا كل يوم يموت عشرات من محمد الدرة!!

Charice - In This Song (AMAZING PERFORMANCE)

ขอมอบเพลงไพเราะ... ให้กับ นักรบสาวๆ ที่รักชาติ ไม่กลัวคนเลว... ที่ออกมาแสดงจุดยืนปฎิรูปรัฐบาลโกงชาติ ทุกคนค่ะ

วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2555

میں ایک کپڑے کی دکان کھول دیا.Bir giyim mağazasını açtı.

สาวเกาหลีเต้น กังนัมสไตล์

16x9 - Death Race: Inside the Spartan Death Race challenge

มหัศจรรย์ รีไซเคิล 27/10/55 (1/3)

ประเพณีไหลเรือไฟนครพนม

พ.ต.อ.นายแพทย์สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ ผู้ต้องหาคดีการหายตัวไปของ 2 สามี-ภรรยา ชาวจังหวัดเพชรบุรี ก็ถูกดำเนินคดีเพิ่มในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน

ล่าสุดศาลจังหวัดเพชรบุรี อนุมัติออกหมายจับ พ.ต.อ.นายแพทย์สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ เพิ่มอีก 1 ข้อหาคือ ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน โดยเป็นคดีฆ่านายอีต้าร์ แรงงานชาวพม่าในไร่ของผู้ต้องหา ซึ่งพนักงานสอบสวนสถานีภูธรท่าไม้ลวก มีวัตถุพยานสำคัญให้ศาลเชื่อว่าผู้ต้องหาเป็นผู้กระทำความผิด คือโครงกระดูกที่ขุดพบในไร่ พันตำรวจเอกนายแพทย์สุพัฒน์ มีร่องรอยถูกยิงด้วยปืนที่กระโหลกศีรษะ มีดีเอ็นเอยืนยัน รวมทั้งมีพยานบุคคลอีกหลายปากที่เป็นเพื่อนแรงงานชาวพม่า รู้เห็นเหตุการณ์เป็นพยานยืนยัน โดยพนักงานสอบสวนจะเดินทางไปแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าว กับพันตำรวจเอกนายแพทย์สุพัฒน์ ที่เรือนจำกลางจังหวัดเพชรบุรีในวันจันทร์นี้. 

สุดสลด!! 2 ครอบครัวกลับจากเลี้ยงฉลองญาติสอบได้ตำรวจ-ส่งทหาร กระบะประสานงา ดับรวด 9 ศพ


เมื่อเวลา 01.30น. วันที่ 27 ตุลาคม ที่โรงพยาบาล.รัษฎา อำเภอรัษฎา จ.ตรัง พ.ต.ท.ประเสริฐ สงแสง พนักงานสอบสวนอาวุโส สภ.รัษฎา เข้าตรวจสอบรายชื่อและทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตจำนวน 9 ราย หลังเกิดอุบัติเหตุรถยนต์กะบะจำนวน 2 คัน วิ่งประสานงากันที่หมู่ที่บริเวณหมู่ที่ 1 ถนนรัษฎา-บ่อร้อ หมู่ที่ 1 ตำบลหนองบัว อำเภอรัษฎา เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 4 ชม.ในการงัดรถยนต์และนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้ทั้งหมด ซึ่งเสียชีวิตในที่เกิดเหตุจำนวน 6 รายและมาเสียชีวิตที่รพ.จำนวน 3 ราย
ทั้งนี้ จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายจรัส บุญชูดำ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ที่ 8 ตำบลเกาะขัน อำเภอชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เป็นคนขับรถยนต์โตโยต้า วีโก้ 4 ประตู สีบรอนด์ทอง ทะเบียน กง 6496 นครศรีธรรมราชจากอำเภอรัษฎา จ.ตรัง มุ่งหน้าไปยังตำบลน้ำตก อำเภอทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช โดยมีผู้โดยสารนั่งในรถมาด้วยจำนวน 4 คน ประกอบด้วยนายสาคร เพชรรัตน์ ,นางวานีย์ ชูถนอม ,นางสาวณัฐกฤติกา รอดรักษ์ และนายโสภล ใจซื่อดี ทั้งหมดเป็นชาวจ.นครศรีธรรมราช และเป็นญาติกัน ซึ่งเพิ่งเดินทางกลับมาจากงานเลี้ยงฉลองลูกหลานสอบเป็นนายสิบตำรวจได้ ในพื้นที่ตำบลหนองบัว อำเภอรัษฎาส่วนรถอีกคันมีนายอนันต์ศักดิ์ เกิดบัวเพชร อายุ 27 ปี อยู่ที่ 25/3 หมู่ที่ 1 ตำบลน้ำตก อำเภอทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เป็นคนขับ รถยนต์อีซูซุ 4 ประตู สีบรอนด์เงิน ป้ายแดงทะเบียน ก 0624 นครศรีธรรมราช มีผู้โดยสารจำนวน 3 คนนั่งมาภายในรถประกอบด้วยนายปราโมทย์ เกิดบัวเพชร,นายยุทธพล สิงห์ชุม และนายจตุพร ใหม่ศรี ทั้งหมดเป็นชาวจ.นครศรีธรรมราช และเป็นญาติกัน ซึ่งเพิ่งเดินทางกลับจากงานเลี้ยงส่งญาติไปเป็นทหารประจำการ และมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองอำเภอรัษฎา คาดว่ารถทั้งสองคันจะวิ่งมาด้วยความเร็วสูง และเข้าเส้นกลางถนนทั้งสองคัน เนื่องจากคาดว่ายามดึกจะไม่มีรถวิ่งสวน ประกอบกับที่บริเวณถนนไม่มีไฟสาธารณะ สว่างเพียงพอ เป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุหมู่ดังกล่าวขึ้น ส่วนรายละเอียดอื่นๆอยู่ในระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555

หยุดเที่ยวเพื่อมาปฎิรูปประเทศไทย

Losing Ground on Coffee

A New Take on a Classic Dish

ريبورتاج: تعذيب مدمني المخدرات في كمبوديا

นักร้องผับหาดใหญ่ โดนตำรวจกระทืบเจ็บปางตาย


(26 ต.ค.) สื่อมวลชน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้รับแจ้งความร้องทุกข์จากญาติของ นายธนวัฒน์ เพ็ชรเจริญอายุ 36 ปี นักร้องอาชีพอยู่สถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่งในหาดใหญ่ โดยญาติระบุว่า นายธนวัฒน์ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายร่างกาย จนสมองกระทบกระเทือน อาการสาหัส
นางปวริศา วาดวงพัตร์ อายุ 38 ปี พี่สาวของผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมกับญาติๆ ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า เมื่อคืนวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา นายธนวัฒน์ ได้ขับรถจักรยานยนต์ตามรถยนต์ของแฟนสาวที่กำลังคบหาอยู่ เพื่อไปส่งที่บ้านจนกระทั่งขับมาถึงบริเวณปากซอย 6 ถนนเพชรเกษม ทั้งสองได้จอดรถและคุยกันในรถยนต์ของฝ่ายหญิง ก่อนที่ ด.ต.พรศักดิ์ สุวรรณรัตน์ ตำรวจสังกัดชุดสืบสวนภูธร จ.สงขลา ขับรถมาปาดหน้า ซึ่งคาดว่าน่าจะสะกดรอยตามมาอีกที เพราะหึงหวงฝ่ายหญิง ซึ่งทั้งสองเคยแอบคบหากัน แม้ว่า ด.ต.พรศักดิ์ จะมีภรรยาอยู่แล้ว
เมื่อเห็นสถานการณ์ไม่ดี ฝ่ายหญิงจึงได้บอกให้ นายธนวัฒน์ กลับไปก่อน เพราะต้องการเคลียร์ปัญหาหึงหวงกับตำรวจนายดังกล่าว แม้จะได้เลิกรากัน ไม่ต้องการเป็นเมียน้อยอีกต่อไปแล้ว แต่ยังคงติดตามไปทุกทีและง้อขอคืนดี จนฝ่ายหญิงเริ่มตีตัวออกห่างและคบหากับนายธนวัฒน์ในเวลาต่อมาขณะที่ นายธนวัฒน์ กำลังจะขึ้นรถจักรยานยนต์เพื่อกลับ ด.ต.พรศักดิ์ ได้เข้ามากระโดดถีบและทำร้ายร่างกาย นายธนวัฒน์ จนสะบักสะบอม ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะนำตัวส่งโรงพยาบาลและเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจนายดังกล่าวว่าถูกคุกคามด้านญาติๆ ของ นายธนวัฒน์ ยังบอกอีกว่า หลังจากเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความกับ สภ.หาดใหญ่ แล้ว แต่เกรงว่าคดีจะล่าช้า เพราะคู่กรณีเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจยศ ดาบตำรวจ จึงได้เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชนอีกทาง เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับ นายธนวัฒน์ ซึ่งยังโคม่าไม่รู้สึกตัว จากอาการสมองกระทบกระเทือน

ประเทศไทย...คนไทยไม่ต้องไปรบกับชาติใดหรอก เพียงท่านออกมาต่อสู้กับนักการเมือง รัฐบาลไทย ที่ทุจริต คอรัปชั่น ให้พักนักการเมืองไว้สัก 5 ปี ออกกฎหมายป้องกันนักการเมืองโกง เช่น นักการเมืองทุจริต คดีต้องไม่มีอายุความ อีกเรื่อง เช่น การทุจริตไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ นักการเมือง หรือเอกชน แต่ไปเกี่ยวช้องกับผลประโยชน์ชาติ ผลประโยชน์ประชาชน ให้ประชาชนเป็นผู้เสียหายได้ สามารถฟ้องร้องต่อศาลโดยตรงได้ ไม่ต้องผ่านอัยการ เช่น กรณี 7 ตุลา รัฐบาลสั่งสลายกลุ่มคนไทยรักชาติ มีหลักฐานจากทีวี มีคนตาย คนเจ็บ น่าอนาถ ปปช. มีความเห็นสั่งฟ้องคดี แต่พอเรื่องมาถึงอัยการ กลับสั่งไม่ฟ้องคดี ขอถาม ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน การสั่งไม่ฟ้องแบบนี้ค้านความรู้สึกมหาชน โอนปตท.มาเป็นของรัฐ 100% น้ำมันก็จะเหลือเพียงลิตรละ 17 บาท ให้ยุติการใช้เงินมหาสารไปรับจำนำข้าว เพราะ รับจำนำข้าวแพง ชาวนาไม่มีใครมาไถ่ถอนหรอก รัฐบาลก็ต้องหาขายข้าวให้ต่างประเทศแบบถูกๆ เพราะ ราคาจำนำแพงกว่าราคาข้าวของต่างประเทศที่เขาส่งออก รู้แบบนี้ยังจะทำอีก ต่อไปมีสิทธิ์ทำเศรษฐกิจชาติล่มจม... นี่แหละเป็นต้นเหตุ ให้ของแพง ประชาชนเดือดร้อน ชาติไม่เจริญ คนรวยอยู่ในรัฐสภาไม่กี่คน แต่มีคนจนทั้งแผ่นดิน....

HD 240355 ชำแหละน้ำมันแพงเพราะ? 2/2

HD 240355 ชำแหละน้ำมันแพงเพราะ? 1/2

อุทาหรณ์เมืองไทย...นักการเมืองไทยบอกประชาธิปไตยต้องมีการเลือกตั้ง แต่ไม่ได้บอกว่า ได้อำนาจมาเพราะ ซื้อเสียง รากหญ้าต้องการเศษเงินก็ขายเสียง พอเป็นรัฐบาลให้บอกว่า เป็นรัฐบาลโดยชอบด้วยกฎหมาย ต่อมาก็โกงกินเพื่อให้มีทุนไว้ซื้อเสียงครั้งต่อไป พยายามสร้างรัฐตำรวจไปทุกหน่วยงานราชการ ข้าราชการระดับปลัดกระทรวง อธิบดี ทหารใหญ่ เวลาเกษียณก็ไปสมัครลงเลือกตั้งเป็นส.ส. เป็น ส.ว.เพื่อรับใช้นักการเมือง องค์กรอิสระ อัยการ ศาล ก็ถูกซื้อด้วยเงินของนักการเมือง แถมยังสร้างมวลชนพวกเสื้อแดง ชายชุดดำ โกตี๋ขยะการเมือง ออกมาเป็นองค์รักษ์พิทักรัฐบาล สร้างขบวนการในเว็บหมิ่นเจ้าล้มเจ้า ปล้นชาติโดยปตท. ก๊าซแพง น้ำมันแพง โกงกินโครงการรับจำนำข้าว ใช้เงินกว่า 4 แสนล้าน เมืองไทยเป็นเมืองพุทธจงให้อภัยนักการเมืองโกงชาติเหล่านั้น ขอให้คนไทยทุกคนอดทนซื้อของแพง อดทนใช้น้ำมันแพง อดทนกับระบบยุติธรรม อย่างมากชาติไม่ถึงล่มจมหรอก ใครไปไม่รอดอยู่ไม่ได้ ก็ไปค้ายาเสพติด ปล้น วิ่งราวทรัพย์ ฉ้อโกงประชาชน แต่จะมีสักวันที่ทุกคนทนไม่ได้ จะออกมาปฎิรูปชาติบ้านเมือง ถึงเวลานั้นก็จะเป็นบุญของประเทศ...

มหาราชาของปวงชนชาวไทย...การใดที่ปลุกใจ...ให้ทุกคนรักชาติ รักพระเจ้าอยู้หัว ให้รู้จักแยกคนไม่ดีที่มีอำนาจมิให้มาปกครองบ้านเมือง! ข้อความนี้ "ชอบด้วยกฎหมายและชอบด้วยศิลธรรม" ใครก็ตาม...ที่บังอาจดูหมิ่น เหยียดหยาม องค์พระมหากษัตริย์ของไทย ใครก็ตาม...ที่บังอาจมีพฤติกรรม ก่อการขบวนการล้มเจ้า ทำการเผยแพร่คลิปวีดีโอจำนวนมาก ให้ร้ายพระองค์ท่านในเว็บยูทรูปและใครก็ตามที่ออกมาปราศรัยเวทีเสื้อแดงของพรรคเพื่อ­ไทย พูดจาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มีเจตนากระทำผิดกฎหมาย มาตรา 112 ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญแห่งราชอณาจักรไทย คำถาม การกระทำเยี่ยงนั้น...พระองค์ท่านทรงไปทำอะไรให้พวกคุณ!!! พลังแผ่นดิน! ทุกคนที่รักในหลวง...จะออกมาต่อต้านพวกคุณ...ทุกรูปแบบ. ประเทศไทย!!! จะต้องมีการปฎิรูป เพื่อขจัดนักการเมือง ทุจริต โกงชาติ เป็นมะเร็งร้ายทำลายชาติถ้าไม่มีการทำอะไรกับคนพวกนี้ ชาติก็จะไม่เหลืออะไร ไม่มีแม้ที่จะยืนให้ลูหลานไทยได้มีอนาคตเพราะ ประชาชนอยู่อย่างลำบาก ฐานะยากจนลง ไม่รู้จะไปหากินอะไร ปัจจุบันมิว่าจะประกอบอาชีพอะไรก็แทบเอาตัวไม่รอด นอกจากนักการเมืองที่ใช้อำนาจหาเงิน เมื่อปัญหานักการทุจริต โกงชาติ ไม่สามารถแก้ได้ในรัฐสภา ทางออกทุกคนคงรู้ว่า จะทำอย่างไร เพียงแต่จะมีผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองจะออกมานำหรือเปล่า!!! หรือจะรอให้นักการเมืองแย่งอำนาจกัน หลอกใช้ประชาชน ใช้ข้าราชการเป็นเครื่องมือ แบ่งเป็นฝักเป็นฝ่ายให้มาฆ่ากัน จนบ้านเมืองเกิดจราจล เกิดกุลียุค แล้วนักการเมืองก็จะเรียกร้องให้มาปรองดองกันอีก คนแบบนี้อยู่ไปก็รกบ้านรกเมือง!!! "ชีวิต...เลือดเนื้อ...ข้าพุทธเจ้า...ขอมอบไว้แด่...พระเจ้าอยู่หัวแล้ว"

แห่ศพร้องญาติถูกการ์ดเชือดคอ ตร.ท้องที่ไม่สนใจ


 (26 ต.ค.) น.ส.กัลย์กมล ใจบุญ อายุ 23 ปี เป็นแกนนำชาวบ้านในย่านอ่อนนุชกว่า 40 คน แห่ศพนายดวงเด่น โพธิ์ทอง ซึ่งถูกการ์ดของร้านอาหารแห่งหนึ่งในย่านซอยสุภาพงษ์ 3 แขวงและเขตพระโขนง ทำร้ายร่างกายและใช้มีดเชือดคอจนเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมา เข้าเรียกร้องขอความเป็นธรรมกับ พล.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ที่ สน.พระโขนง โดยอ้างว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ท้องที่ที่เกิดเหตุไม่สนใจดำเนินการกับผู้กระทำผิดและสถานบันเทิง
น.ส.กัลย์กมล กล่าวว่า นายดวงเด่นซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องไปเที่ยวที่ร้านอาหารดังกล่าวกับเพื่อน แต่เกิดความผิดพลาดจนแก้วเหล้าตกแตก เจ้าของร้านเข้ามาต่อว่าและเรียกให้การ์ดของร้าน มาเอาตัวนายดวงเด่นไปรุมทำร้ายร่างกาย จากนั้นพาตัวไปข้างรถของผู้ที่มาเที่ยวที่ร้านแล้วเชือดคอจนเสียชีวิต แต่ตำรวจ สน.พระโขนงก็ไม่สนใจดำเนินคดีใดๆ ทั้งๆที่มีกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ และทางร้านยังเปิดให้บริการตามปรกติ เจ้าของร้านยังพูดเยาะเย้ยว่า จะมีใครมาปิดร้านอาหารแห่งนี้ได้ ทั้งนี้ ตนและชาวบ้านเห็นว่าการเสียชีวิตของน้องชายไม่ได้รับความเป็นธรรมจากตำรวจในพื้นที่ จึงมาร้องเรียนกับ ผบ.ตร.ในวันนี้และจะไม่มีการเผาศพนายดวงเด่น จนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม

عذراً إخواننا في بورما

วันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555

สรยุทธ สุทัศนะจินดา นักข่าว(ทีวีช่อง 3)ไม่จำเป็นต้องมีคุณธรรมทุกเรื่อง เงินทองผลประโยชน์มีโอกาสก็ต้องโกง เพราะ กฎหมายป.วิอาญา ระบุว่า ศาลยังไม่มีคำพิพากษาให้มีความผิด ถือว่า ตนยังบริสุทธิ์ พฤติกรรมแบบนี้สังคมไทยจะนำไปเป็นต้นแบบว่า คนเก่ง แต่โกงก็ไม่เป็นไร สังคมตกต่ำชั่งมัน

     นางพิชชาภา เอี่ยมสอาด พนักงาน บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ได้ให้ปากคำต่อ ป.ป.ช.กรณีร่วมกันทุจริตเงินค่าโฆษณาส่วนเกิน 138 ล้านบาทว่านายสรยุทธ สุทัศนะจินดา เจ้าของบริษัท ไร่ส้ม จำกัดรู้เรื่องดีและเป็นผู้ขอให้ช่วยเหลือบริษัท ไร่ส้ม จำกัด 
 คำให้การ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับตน(นางพิชชาภา) โดยตรง โดยใช้โทรศัพท์ของเลขานุการส่วนตัวของนายสรยุทธ ชื่อเล่นว่าคุณแก้ว โดยขอให้ช่วยเหลือไม่ต้องแจ้งโฆษณาส่วนเกินเวลาของบริษัท ไร่ส้ม จำกัดให้กับทางอสมท และเพื่อเรียกเก็บเงินค่าโฆษณาส่วนเกินดังกล่าวจากบริษัท ไร่ส้ม จำกัด โดยนายสรยุทธรับปากกับตนว่าจะจ่ายค่าตอบแทนให้กับตนในจำนวนร้อยละ 2 ของค่าโฆษณาเกินเวลาที่บริษัท ไร่ส้ม จำกัด ไม่ต้องชำระให้กับ อสมท  
          เมื่อตนดำเนินการช่วยเหลือตามที่นายสรยุทธและเลขาฯของนายสรยุทธ คือ คุณแก้วขอร้องแล้ว ในช่วงแรกนายสรยุทธก็จ่ายเงินค่าตอบแทนตามที่รับปากไว้ โดยนายสรยุทธลงนามจ่ายเป็นเช็คของธนาคารธนชาต สาขาพระรามสี่ และให้คุณแก้ว ฝากไว้กับพนักงานของ อสมท ชื่อนางศิริทิพย์ (จำนามสกุลไม่ได้) เป็นผู้นำมามอบให้กับตนอีกทอดหนึ่ง โดยนายสรยุทธได้จ่ายเงินให้ตนประมาณ 8 ครั้ง ซึ่งทั้ง 8 ครั้งดังกล่าวก็ไม่ได้จ่ายให้ตนอย่างสม่ำเสมอ หรือตามจำนวนที่รับปากไว้ และเหตุที่ตนไม่ได้เรียกร้องให้จ่ายตามจำนวนที่ตกลงกันไว้เนื่องจาก เห็นว่าเป็นการตกกะไดพลอยโจน ช่วยเหลือนายสรยุทธไปแล้ว จึงยอมๆกันไป
         เนื่องจากรายการคุยคุ้ยข่าว เป็นรายการสด และนายสรยุทธเป็นพิธีกรดำเนินรายการทุกวัน ดังนั้นนายสรยุทธย่อมทราบดีว่ารายการที่ออกอากาศในแต่ละวันมีโฆษณาทั้งหมดกี่โฆษณา เป็นโฆษณาตามเวลาจำนวนเท่าใด และในส่วนที่เกินเวลาจำนวนเท่าใด จึงเป็นไม่ได้ที่นายสรยุทธจะไม่ทราบเรื่อง หลังจากที่ บริษัท อสมท ได้ตรวจพบว่า บริษัท ไร่ส้ม จำกัด มีโฆษณาส่วนเกินเวลาในรายการคุยคุ้ยข่าว แต่ไม่แจ้งและชำระค่าโฆษณาเกินเวลาดังกล่าวให้ อสมท นายสรยุทธได้บอกให้เลขาฯคือคุณแก้ว มาขอร้องให้ตนทำการลบรายการโฆษณาส่วนเกินของรายการคุยคุ้ยข่าวในใบคิวโฆษณา โดยบอกกับตนว่า “พี่สรยุทธ ขอร้องให้ช่วยเหลือ” และบอกอีกว่า หากมีอะไรนายสรยุทธก็จะช่วยเหลือไม่ทอดทิ้งอย่างแน่นอน  ตนจึงทำการลบรายการโฆษณาส่วนเกินของรายการคุยคุ้ยข่าวในใบคิวโฆษณาบางส่วนแต่ไม่ทั้งหมด ตามที่นายสรยุทธ และเลขาฯร้องขอ แต่ภายหลังเมื่อ อสมท ได้ตรวจสอบอย่างเป็นระบบก็ให้นายสรยุทธมาชำระค่าโฆษณาเกินดังกล่าวให้กับทาง อสมท  และตนทราบภายหลังว่านายสรยุทธ ได้ยินยอมชำระค่าโฆษณาส่วนเกินให้กับทาง อสมท.ในทันทีเพราะจำนนต่อหลักฐาน 
        

4 คนร้าย ปาดหน้ารถกระบะชัก ปืนจี้ชิงทอง 3 บาท เย้ย ตร. นำกำลังไปปล่อยแถวกวาดล้าง


25 ต.ค. เวลา 22.20 น. พ.ต.ท.ไชยันต์ ดาวเรือง สารวัตรเวรสอบสวน สภ.สามโคก จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุ 4 คนร้าย ขับรถกระบะปาดหน้ารถกระบะอีซูซุ ดีแมกซ์ ชักอาวุธปืนจี้ชิงสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท แหวนทองหนัก 1 บาท 1 วง แล้วขับรถหลบหนีมุ่งหน้าถนนหมายเลข 9 เหตุเกิดถนนบ้านตากแดด ม.4 ต.บางเตย อ.สามโคก
ที่เกิดเหตุ พบกับ นางไพรินทร์ แซ่เตียว อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120/36 ม.3 จ.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เจ้าของร้านสังฆภัณฑ์ในตลาดระแหง ยืนตัวสั่น แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ขณะขับรถกระบะอีซูซุ ดีแมกซ์ หมายเลขทะเบียน บม 3327 นครปฐม กลับจากไปไหว้ ศาลหลวงปู่ท๊อป ขับมาตามถนนสายบ้านตากแดด เพื่อออกถนนหมายเลข 9 วงแหวนตะวันตก กลับบ้านที่ตลาดระแหง
ขณะขับมาคนเดียวเหลืออีก 500 เมตร ก็จะออกปางทาง ได้มีรถกระบะแคป สีน้ำเงิน ได้ขับปาดหน้ารถให้ตนจอด แล้วมีคนร้ายจำนวน 4 คน ลงมาจากรถจำนวน 2 คน ได้ชักอาวุธปืนสั้นออกมาจี้ตนว่า ถ้าไม่อยากตาย ให้ถอดสร้อยและแหวนออกมา ตนตกใจทำอะไรไม่ถูก คนร้ายได้ตบหน้า 1 ครั้ง และกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท แต่พระเหลี่ยมทองได้ตกลงมาในรถ และให้ตนถอดแหวนทองคำหนัก 1 บาท รวมคนร้ายได้ทองไป 3 บาท แล้วขับรถออกปากทาง มุ่งหน้าไปทางบางบัวทอง
จากเหตุการณ์คนร้ายปล้นรถครั้งนี้ ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจอยู่ในพื้นที่เลย เนื่องจากถูกเกณฑ์กำลังตำรวจไปร่วมปล่อยแถวออกกวาดล้างที่ลานจอดรถแม็คโค อ.คลองหลวง โดยมี พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 มาทำพิธีปล่อยแถวในครั้งนี้ จึงทำให้คนร้ายทำการปล้นแล้วหลบหนีได้อย่างสบาย ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจออกสกัดจับเลย

สมบัติผลัดกันชม...เศรษฐกิจประเทศจะอยู่หรือไป...ขึ้นอยู่ที่ ส.ส.พรรครัฐบาล...

รู้ทันภัยผู้หญิง...


รวบพ่อค้าอาหารซีฟู้ด ตระเวนลวง ด.ญ.อายุ 7-9 ขวบ ทำอนาจาร สุดชั่วบังคับให้กินยาพร้อมดูคลิปโป๊ ใช้วัยวะเพศถูไถจนสำเร็จความใคร่
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 24 ตุลาคม พ.ต.อ.เสรี เศรษฐกร ผกก.สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง พร้อมด้วย พ.ต.ท.วราวุฒิ นิตยวัน สว.สส.ฯ พ.ต.ท.สุรชัย สุพันธุ์ชัยกุล สวป.ฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.มาบตาพุด นำหมายศาลจังหวัดระยอง เลขที่ จ.712/2555 เข้าจับกุมนายสมพร หรือพร ชูเชิด อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 1 ถ.เลียบชายหาด ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระยอง พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย 1 เครื่อง ยาผงละเอียดสีชมพู-ม่วง 1 ถุง เสื้อยืดคอปกสีเหลืองแขนสั้น กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน น้ำมันมะกอกครึ่งขวด หมวกกันน็อคเต็มใบ สีน้ำเงิน-ขาว รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 สีน้ำเงินไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ก่อเหตุล่อลวงเด็กหญิงอายุ 7 - 9 ขวบ ไปกระทำอนาจาร และข่มขืนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

พ.ต.อ.เสรี เศรษฐกร ผกก.สภ.มาบตาพุด กล่าวว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า มีอาชีพขายอาหารทะเลตามตลาดนัดต่างๆก่อนหน้านี้ประมาณเดือนกรกฎาคม ได้ล่อลวงพาเด็กหญิงก้อย(นามสมมติ) อายุ 9 ขวบ นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เข้าไปจอดในสวนพุ่มไม้แนวรั้ว บริษัทโรงกลั่นน้ำมันแห่งหนึ่งใน ต.มาบตาพุด ได้ใช้กำลังบังคับชกท้องและตบหน้าเด็กหญิงก้อย(นามสมมติ) จับถอดเสื้อผ้าแล้วใช้วัยวะเพศถูไถ บังคับให้จับจนสำเร็จความใคร่ แล้วขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีโดยทิ้งเด็กหญิงก้อยไว้ในที่เกิดเหตุ
ต่อมาได้พาเด็กหญิง แอน(นามสมมติ) อายุ 7 ขวบ หลอกอุบายให้ช่วยเข็นรถจักรยานยนต์ดัดแปลงเป็นรถสามล้อพ่วงข้าง และได้บังคับให้ขึ้นรถไปด้วยกันโดยพาเข้าไปในสวนยางใกล้โรงฆ่าสัตว์เทศบาลเมืองมาบตาพุด พยายามทำอนาจารจับอวัยวะเพศเด็กหญิงแอน ช่วงจังหวะที่ผู้ต้องหากำลังถอดกางเกง เด็กหญิงแอนจึงฉวยโอกาสวิ่งหลบหนีออกมาได้และล่าสุดได้ก่อเหตุหลอกอุบายเด็กหญิงแดง(นามสมมติ) อายุ 9 ขวบ ให้ขึ้นรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง และบังคับให้กินยาเพื่อให้เด็กมีอาการมึนเมา และพาไปบริเวณตลาดนัดคลองถมหลังเมืองใหม่มาบตาพุด บังคับเด็กหญิงแดง(นามสมมติ)ถอดเสื้อ และใช้มือจับหน้าอก บังคับให้เด็กหญิงแดง(นามสมมติ)ดูคลิปวีดีโอโป๊จากโทรศัพท์มือถือ พร้อมถอดกางเกงในเด็กหญิงแดงออก และกระทำอนาจาร หลังจากนั้นได้ทิ้งเด็กหญิงแดง(นามสมมติ)ไว้ในที่เกิดเหตุ อย่างไรก็ตาม เด็กหญิงที่ตกเป็นเหยื่อทั้ง 3 รายให้การตรงกันว่า เป็นนายสมพร
ผกก.สภ.มาบตาพุด กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมนายสมพร หรือพร ได้ขณะกำลังปีนกำแพงแอบดูผู้หญิงอาบน้ำในห้องน้ำ จึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจับกุมได้ และให้การรับสารภาพว่าได้ตระเวนหาเหยื่อที่เป็นเด็กหญิงอายุประมาณ 7-9ขวบ ไปกระทำอนาจาร ซึ่งมีผู้ปกครองเด็กที่ตกเป็นเหยื่อจำนวนหลายรายได้เข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานสำหรับนายสมพร ชูเชิด อายุ 42 ปี ผู้ต้องหามีประวัติเพิ่งพ้นโทษคดีอนาจาร เมื่อวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังพ้นโทษออกมาก็มาก่อคดีอนาจารเด็กหญิงอีกหลายราย

วันพุธที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ผ่าขุมทรัพย์ร้อยล้าน หนู กันภัย นักสักชื่อดัง ฉ้อโกงพระนับร้อยล้าน...

โดดกัดหูเพื่อนขาดสยอง


เมื่อเวลา 00.30 วันที่ 24 ต.ค. ขณะที่ ร.ต.อ.สิงห์คาล นันทะชัย พงส. (สบ 1) สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก นางชลอ เติมบุญ อายุ 52 ปี อาชีพพนักงานบริษัทผลิตพัดลมแห่งหนึ่งย่าน ต.ในคลองบางปลากด ได้พาร่างกายอันบอบช้ำ สภาพใบหน้ามีรอยขีดข่วนหลายแห่ง ที่หูข้างซ้ายมีผ้าพันแผลโปะอยู่หลายชั้นมีเลือดไหลซึมออกมา และเนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำมันเครื่อง เข้าแจ้งความว่า ถูกนางประเสริฐ ชูวงษ์ อายุ 48 ปี เพื่อนพนักงานที่คบหากันมานานกว่า 25 ปี ทำร้ายร่างกายด้วยการกระโดดกัดหูข้างซ้ายจนหูขาดออกมาทั้งยวง ต้องเย็บกว่า 40 เข็ม โดยเหตุเกิดในซอยวัดคู่สร้าง หมู่ 10 ต.ในคลองบางปลากด ช่วงเย็นที่ผ่านมา
        นางชลอ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุภายหลังจากเลิกงานแล้ว ขณะที่ยืนรอรถสองแถวเพื่อกลับที่พัก จู่ ๆ นางประเสริฐได้เดินถือขวดน้ำมันเครื่องปรี่เข้ามาหา ก่อนจะบีบน้ำมันเครื่องใส่หน้าจนตนมองอะไรไม่เห็น จากนั้นถูกจิกผมแล้วกระชากศีรษะ ก่อนจะถูกกัดที่หูข้างซ้ายอย่างแรง ตนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดและพยายามดิ้นหนีแต่ก็ไม่สำเร็จ เพื่อน ๆ พนักงานที่เห็นเหตุการณ์พยายามเข้าห้ามปราม จนกระทั่งนางประเสริฐกัดหูตนจนขาดออกไปทั้งยวงถึงยอมปล่อยจากนั้นยังแสยะยิ้มและบ้วนหูของตนทิ้งที่พื้น เพื่อน ๆ จึงรีบเก็บหูเปื้อนน้ำลายปนเลือดและเรียกรถแท็กซี่พาตนส่ง รพ.บางปะกอก 3 โดยแพทย์ต้องเย็บต่อใบหูให้กว่า 40 เข็ม และแจ้งว่ามีโอกาสน้อยมากที่หูตนจะหายเป็นปกติ เพราะหูส่วนนอกฉีกขาดออกมาทั้งหมด อีกทั้งระหว่างที่เดินทางมาโรงพยาบาลไม่ได้นำหูแช่น้ำแข็ง ทำให้เส้นเลือดใหญ่อาจตายได้ นอกจากนี้ยังมีโอกาสติดเชื้อสูงมาก
       นางชลอ ให้การต่อว่า ส่วนสาเหตุคาดว่าเป็นเพราะระยะหลังตนกับนางประเสริฐ มีปัญหากันเรื่องงาน เคยมีปากเสียงกันบ้างแต่ก็ไม่รุนแรงมาก โดยก่อนที่จะเลิกงานนางประเสริฐได้เข้ามาต่อว่ากล่าวหาว่าตนไปนินทาลับหลัง ซึ่งตนก็ปฏิเสธไปแล้วว่าไม่ได้ทำ จนกระทั่งเกิดเหตุขึ้นไม่คิดเลยว่าคนที่เป็นเพื่อนกันมานานกว่า 25 ปี จะทำกันได้ขนาดนี้ด้าน ร.ต.อ.สิงห์คาล กล่าวว่า จากนี้จะได้เรียกตัวนางประเสริฐมาสอบปากคำ และแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ดำเนินคดีต่อไป.

บะหมี่จอมพลัง

EDNOVI Levitación con Liliana Lago

دنیا ستاروں.

Best of Crashes 2011 (2nd part). Motorsport Crashes.

ผบช.ภ.5 รับในสังกัดมีตำรวจพัวพันยาเสพติด


ผบช.ภ.5 รับในสังกัดมีตำรวจพัวพันยาเสพติดสั่งเกาะติดใกล้ชิด

พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภ.5 เปิดเผยกรณีในพื้นที่รับผิดสอบทำผิดคดียาเสพติด ว่า กรณี ร.ต.ต.ประพันธ์ เนตรสุวรรณ์ รอง สวป.สภ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ถูกจับพร้อมของกลางยาบ้านั้น ทราบมานานแล้วว่านายตำรวจดังกล่าวเสพยาบ้าตั้งแต่สมัยเป็นตชด.และเสพยาร่วมกับผู้ต้องหา ต่อมาย้ายมาเป็นตำรวจสังกัดสภ.แม่อาย ซึ่งผู้กำกับเองก็ได้สงสัยในพฤติกรรมจึงได้แจ้งมาทางด่านอ.ไชปราการ ให้ตรวจค้นและพบการกระทำผิดดังกล่าว ล่าสุด ทราบว่าทางตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ให้ได้ออกจากราชการแล้ว และได้สั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบผู้บังคับบัญชาในระดับสูงกว่า 1 ขั้น กับผู้ต้องหา และผู้กำกับสภ.แม่อาย ว่าดูแลลูกน้องใกล้ชิดหรือไม่

วันอังคารที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2555

أنا أحب هذه الأغنية ... الاستماع إلى تحييد

Cool new army tire technology

العاصمة التونسية

The hidden secrets of Egypt Pyramids (Harun Yahya)

حديث الثورة - تجاوز شرر الثورة السورية للحدود التركية

تحت المجهر : بين دجلة والنيل

Iranian Military Force (100% Action)

IRAN MILITARY POWER 2012 [EXCLUSIVE]

อ.หนู กันภัย อมเงินวัด 400 ล้าน สร้างหลวงปู่ทวด

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 18 ต.ค.พระใบฎีกาเทียนชัย สุภัทโท เจ้าอาวาสวัดแม่ตะไคร้ ตำบลทาเหนือ อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ เข้ายื่นหนังสือต่อ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ร้องเรียน นายสมพงษ์ กันภัย หรือ อาจารย์หนู กันภัย นักสักยันต์ชื่อดัง ในฐานะอดีตประธานจัดสร้างวัตถุมงคลของวัดแม่ตะไคร้ เพื่อนำรายได้ไปก่อสร้างอุทยานหลวงปู่ทวดและพระพุทธรูปจำลองหลวงปู่ทวด ปางธุดงค์ประทานพร ขนาดสูง 19 เมตร องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศ มูลค่าโครงการประมาณ 50 ล้านบาท อ้างดำเนินการไม่โปร่งใส เบื้องต้นดีเอสไอรับเรื่องไว้ตรวจสอบข้อเท็จจริง
       
       พระใบฎีกาเทียนชัย สุภัทโท เจ้าอาวาสวัดแม่ตะไคร้ กล่าวว่า สืบเนื่องจากปี 2551 ทางวัดแม่ตะไคร้ มีโครงการจัดสร้างอุทยานหลวงปูทวด และพระพุทธรูปหลวงปูทวดเนื้อทองเหลืองใหญ่ที่สุดในประเทศ น้ำหนักประมาณ 18 ตัน พร้อมจัดสร้างเหรียญ 5 แถว-ฉัตรเพชร เหรียญดวงประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน เหรียญพระพุทธเจ้าชนะมาร และวัตถุมงคลออกให้ประชาชนเช่าบูชา จำนวน 84,000 เหรียญ ในช่วงแรก ราคาเหรียญละ 1,000-1,500 บาท โดยมี นายสมพงษ์ กันภัย หรือ อ.หนู กันภัย เจ้าของสำนักยันต์ใน จ.ปทุมธานี เป็นประธานจัดสร้างผู้ดำเนินการนำเหรียญวัตถุมงคลของวัดแม่ตะไคร้ ออกประชาสัมพันธ์ให้กับที่สนใจผ่านรายการในสถานีเคเบิลทีวีของ นายภุชงค์ สริธัญผล โดยพูดผ่านรายการว่า จะนำรายได้ทั้งหมดนำมาสร้างหลวงปูทวดองค์ที่ใหญ่ที่สุดและสูงที่สุดที่วัดแม่ตะไคร้
       
       เจ้าอาวาสวัดแม่ตะไคร้ กล่าวอีกว่า ตั้งแต่เริ่มโครงการก่อสร้างองค์หลวงปูทวด มีผู้มีจิตศรัทธาจำนวนมาก ร่วมกันบริจาคเงินบูชาวัตถุมงคล ทั้งในรายงานเคเบิลทีวี และที่สำนักสักยันต์ อ.หนู กันภัย โดย นายสมพงษ์ หรือ อ.หนู จะเป็นผู้ถือเงินที่ได้จากการจัดสร้างวัตถุบูชาแต่เพียงผู้เดียว ทางวัดแม่ตะไคร้ไม่มีโอกาสรับรู้เกี่ยวกับรายได้ในการจัดสร้างวัตถุมงคล ที่ผ่านมา นายสมพงษ์ ได้นำเงินมอบให้วัดประมาณ 15 ล้านบาท ทำให้การก่อสร้างอุทยานหลวงปูทวดไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ สร้างได้เพียงฐานพระ 50 เปอร์เซ็นต์ ทั้งที่เชื่อว่าเงินรายได้จากศรัทธาสาธุชนที่ร่วมกันบริจาคเช่าวัตถุมลคลนั้น มีจำนวนมากกว่า 300-400 ล้านบาท เมื่อวัดทวงถามไปยังนายสมพงษ์ กลับบอกว่า ไม่มีเงินแล้ว เรื่องนี้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีหนังสือให้เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ตรวจสอบ ก่อนมายื่นให้ดีเอสไอสอบสวนเรื่องดังกล่าว
       
       ด้าน นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ได้มอบให้สำนักคดีอาญาพิเศษ 2 ดีเอสไอ เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง ประกอบการพิจารณาต่อไป