วันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ยกเค้าบ้านนายกเล็กกวาดทรัพย์กว่า 20 ล้าน




วันนี้(12 พ.ค.) ร.ต.ท.สันต์นที กาญจนาภา ร้อยเวร สภ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งมีเหตุลักทรัพย์ที่โชว์รูมซื้อขายรถยนต์มือสอง หจก.ส.บริสุทธิ์ เลขที่ 555 หมู่ 3 ต.อู่ทอง จึงไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ชัชชรินทร์ สว่างวงศ์  รอง ผบก.ภจ.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.สุรกฤษฎ์ มาลีสี ผกก.พ.ต.ท.วิรัตน์ เพชรทอง รอง ผกก.สส.พ.ต.ท.กุญชร วงษ์พันธุ์ สว.สส.กำลังฝ่ายสืบสวน ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนสองชั้นหลังใหญ่ ที่บริเวณประตูหลังบ้านมีรอยถูกงัด จากการตรวจสอบภายในบ้านบริเวณ พบตู้เซฟ ซึ่งตั้งอยู่ใต้บันไดทางขึ้นชั้นสองที่มีตู้เสื้อผ้าและราวตากผ้าปิดบังเอาไว้ ที่ประตูตู้เซฟถูกคนร้ายใช้เครื่องเจียรไฟฟ้าตัดและมีรอยถูกทุบ ทิ้งกระจายเกลื่อน ตรวจสอบพบทองรูปพรรณ ประมาณ 600 บาทพร้อมเครื่องเพชรชุดใหญ่  ที่อยู่ในตู้เซฟหายไป นอกจากนี้ตามห้องต่างๆ ถูกคนร้ายรื้อค้น และเงินสดกว่า 2 ล้านบาทที่เก็บไว้ในตู้เหล็กถูกคนร้ายนำไปด้วย
จากการสอบสวนนางเกียง บริสุทธิ์ อายุ 60 ปีเจ้าของบ้านให้การว่าตนเป็นภรรยาอดีตนายกเทศบาลตำบลกระจัน หลังจากสามีเสียชีวิต ลูกชายคนเล็กได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกเทศบาลแทนบิดา โดยครอบครัวตนประกอบธุรกิจหลายอย่าง ก่อนเกิดเหตุตน นอนพักอยู่ที่ห้องชั้นล่างกับหลานส่วนลูกชายคนเล็ก นอนอยู่ชั้นบน ส่วนตู้เซฟ นั้นตั้งอยู่ใต้บันไดทางขึ้นชั้นสองภายในตู้เซฟตนเก็บทองรูปพรรณ และเครื่องเพชรที่สะสมมากว่า 30 ปีส่วนเงินสดประมาณ 2 ล้านบาทนั้นแยกเก็บไว้ในตู้เหล็ก อยู่ที่ชั้นล่าง ขณะที่ทุกคนในบ้านกำลังนอนหลับได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนงัดประตูหลังบ้านเข้ามาใช้เครื่องมือไฟฟ้าตัดประตูตู้เซฟแล้วขโมยทั้งเงินสดทองรูปพรรณ เครื่องเพชรมูลค่ารวมกว่า 20 ล้านบาทหลบหนีไป
นายเสนีย์ บริสุทธิ์ กำนันตำบลกระจัน บุตรชายของนางเกียง  กล่าวว่าก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 อาทิตย์ที่ผ่านมามารดาได้ปรึกษากับตนว่าหลังจากที่บิดา ซึ่งเป็นอดีตนายกเทศบาล ได้เสียชีวิตไปแล้วประมาณ 7 เดือนก็จะมีการเคลียร์หนี้ที่มีอยู่กับธนาคารประมาณ 10 กว่าล้านจากนั้นก็จะนำทรัพย์สินต่างๆที่มีอยู่มาแบ่งให้กับลูกซึ่งทรัพย์สินส่วนมากที่มีก็จะเป็นที่ดิน ทองรูปพรรณต่างๆ แต่ยังไม่ทันได้ดำเนินการก็มาเกิดเหตุขึ้นก่อน ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุนั้นตนคิดว่าต้องเป็นคนที่สนิทกับครอบครัวตนมากแต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร
ทางด้าน พ.ต.อ.ชัชชรินทร์  สว่างวงศ์ รอง ผบก.ภจ.สุพรรณบุรี กล่าวว่าจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าที่บ้านหลังนี้มีคนพักอยู่เพียงไม่กี่คนและคนที่อยู่ในบ้านก็เป็นคนในและคาดว่าคนร้ายที่ก่อเหตุต้องได้รับความร่วมมือกับคนในที่รู้ที่เก็บซ่อนทรัพย์สิน และคนร้ายที่ลงมือครั้งนี้มีการเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีเพราะมีการสวมถุงมือป้องกันการทิ้งหลักฐาน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้เร่งสืบสวนหาเบาะแสและหลักฐานเพื่อติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป.