วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

จับมือยิงเรือจ้าง อ้างฉุนโดนรุมตื้บขวางทางหากิน!


   วันนี้ (14 พ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รรท.ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.คเชนทร์ คชพลายุกต์ รองจเรตำรวจ (สบ 7) ปฏิบัติราชการ บช.ภ.1 แถลงการจับกุม นายสมาน หรือดำ จั่นเพชร อายุ 45 ปี อาชีพขับเรือรับจ้าง อยู่บ้านเลขที่ 115/357 ม.10 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิงคนขับเรือรับจ้างเสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บอีก 1 ราย บริเวณทางเข้าหมู่บ้านบัวทอง เมื่อช่วงเย็นวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยหลังก่อคดีได้หลบหนีไปซ่อนตัวใน จ.จันทบุรี
      
       พล.ต.ต.คำรณวิทย์กล่าวว่า จากการสอบสวนพบว่าคดีนี้เป็นเรื่องความขัดแย้งระหว่างนายสมาน กับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ที่นำเรือมาวิ่งรับจ้างในพื้นที่น้ำท่วม โดยนายสมานถูกกลุ่มเจ้าถิ่นรังแกกีดกันไม่ให้วิ่งเรือในพื้นที่ ซึ่งก่อนเกิดเหตุกลุ่มเจ้าถิ่นได้พยายามพาพวกมารุมทำร้าย โดยนายสมานจึงใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปในกลุ่มจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดัง กล่าว ซึ่งเบื้องต้นได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่น พยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และพกอาวุธในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อดำเนินคดี ส่วนกลุ่มผู้มีอิทธิพลรายนี้ ทาง บช.ภ.1 พบว่ามีประวัติทั้งเรื่องการจัดวินจักรยานยนต์ และคิวรถตู้ในพื้นที่ด้วย
      
       “อย่างไรก็ตาม เรื่องการขัดแย้งผลประโยชน์ในการวิ่งเรือรับจ้าง และการคิดค่าบริการแพงเกินจริงนั้น พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.ได้เน้นย้ำให้ดำเนินการจึงได้มีการประชุมเพื่อแก้ปัญหาในเรื่องนี้ โดยตำรวจภูธรภาค 1 จะเข้าไปจัดระเบียบเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา รวมทั้งร่วมกันกำหนดราคาค่าบริการที่ไม่เอาเปรียบซ้ำเติมผู้ประสบภัย โดยกลุ่มที่ขับเรือรับจ้างต่างๆ ต้องมีการขึ้นป้ายราคา พร้อมให้ตำรวจไปดูแลเพื่อไม่ให้เกิดการเอาเปรียบและความขัดแย้ง หากพบว่ากลุ่มใดที่ไม่ทำตามก็จะดำเนินการตามกฎหมาย” พล.ต.ต.คำรณวิทย์กล่าว
      
       ด้าน นายสมานกล่าวว่า ตนมีปัญหาส่วนตัวกับนายพิทักษ์ อยู่สุข กำนัน ต.บางรักพัฒนา จึงถูกข่มขู่ห้ามวิ่งเรือรับจ้างทั้งที่เป็นคนในพื้นที่ ก่อนเกิดเหตุกลุ่มเรือรับจ้างที่เป็นคนของกำนันจำนวนประมาณ 10 คนได้ขับเรือมาล้อมและเข้ามาต่อย จึงนำปืนที่เก็บไว้ท้ายเรือออกมายิง โดยกำนันคนนี้เป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่มีความสนิทสนมนักการเมืองท้องถิ่น และคุมวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง พร้อมยืนยันว่าไม่ได้วิ่งเรือเร็วตามที่เป็นข่าว และเก็บค่าโดยสารเพียง 50 บาทต่อคนตลอดสาย
      
       นอกจากนี้ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี ยังสามารถจับกุมแก๊งแมวน้ำที่ลักลอบเข้าไปงัดแงะขโมยของซ้ำเติมผู้ประสบภัย น้ำท่วมได้อีก 2 คน ประกอบด้วย นายนเรศ หรือโจ ศิลปะวุฒิ อายุ 43 ปี และ น.ส.บุญยัง หรือเจน สว่างศรี อายุ 34 ปี พร้อมของกลางหลายรายการ เช่น คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก โทรศัพท์มือถือ พระเครื่อง กล้องถ่ายรูป และอุปกรณ์งัดแงะ
      
       พล.ต.ต.คำรณวิทย์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่าคนร้ายทั้ง 2 คนเข้าไปก่อเหตุในร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์ในตลาดสุชาติ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จึงเข้าไปตรวจสอบพบกำลังก่อเหตุจึงควบคุมตัวดำเนินคดี ทั้งนี้ จากการสอบสวนทราบว่าเคยเข้าไปก่อเหตุในร้านดังกล่าวมาแล้ว 2 ครั้ง พร้อมกับนายแขก และนายตุ้มที่อาศัยในชุมชนริมทางรถไฟ และจะนำของที่ขโมยมาได้ไปขายให้นายแกในชุมชนหลักหก ซึ่งผู้ร่วมแก๊งที่เหลือไหวตัวทันหลบหนีไปได้ แต่ทางตำรวจได้ออกหมายจับทั้งหมดไว้แล้ว โดยจะสืบสวนติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป