วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ทีมปล้นบ้านปลัดจ่อหอบ 9 ล้านขอมอบตัวอีก 1

 วันนี้ (21 พ.ย) ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.) พ.ต.อ.อิทธิพล กิจสุวรรณ ผอ.ศูนย์เทคโนโลยี สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เดินทางพบ พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น.เพื่อประสานข้อมูลกับตำรวจในคดีคนร้ายบุกปล้นบ้าน นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม โดยมี พล.ต.ต.อิทธิพล ภิริยะภิญโญ พล.ต.ต.เอื้อพงศ์ โกมารกุล ณ นคร รองผบช.น.เข้าร่วมหารือ โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง
      
       พล.ต.ต.รณศิลป์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาที่เข้ามอบตัวล่าสุด คือ นายชยธัช หรือ เอก จันนะชัย อายุ 33 ปี โดย นายเอก ให้การยอมรับว่า เป็นคนบอกข้อมูลเกี่ยวกับบ้านของนายสุพจน์จริง แต่ไม่ได้เป็นคนสั่งการให้เข้าไปปล้น เพียงได้ยินแม่ตนเองที่เป็นอดีตเลขาฯ หน้าห้องของนายสุพจน์ เล่าให้ฟังถึงบ้านนายสุพจน์ จึงทำให้ทราบว่า บ้านสุพจน์มีเงินเป็นจำนวนมาก พอแม่ของตนถูกบีบให้พ้นจากตำแหน่งจนต้องออกจากงาน ตนจึงรู้สึกอัดอั้นตันใจกับเรื่องที่เกิดกับแม่ เลยไปพูดกับ นายบุญสืบ หรือ สืบ โจมกัน อายุ 43 ปี ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้เกี่ยวกับบ้านของนายสุพจน์ ว่า มีเงินจำนวนมาก จนทำให้นายบุญสืบ และพรรคพวกวางแผนเข้าปล้นเงินภายในบ้านนายสุพจน์ จนเป็นข่าวใหญ่โต โดยตนไม่มีส่วนรู้เห็นด้วย แต่ก็เป็นเพียงคำให้การของนายเอก ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องทำการสืบสวนข้อเท็จจริงต่อไป ส่วน นางชุติมา (มารดา) จากการสอบปากคำแล้ว เบื้องต้นเชื่อว่าไม่น่าจะมีเจตนาทำให้เกิดเรื่องการปล้นบ้านของนายสุพจน์ ขึ้น เพียงแต่เล่าให้ลูกชายฟังเกี่ยวกับเรื่องบ้านของนายสุพจน์เท่านั้นเอง
      
       พล.ต.ต.รณศิลป์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ เมื่อวาน (20 พ.ย.) ยังได้รับการติดต่อจากนายประพันธ์ ผู้ต้องหาที่หลบหนีอยู่ว่าจะขอเข้ามอบตัว โดย นายประพันธ์ กล่าวว่า ตนได้เงินไป จำนวน 9 ล้านบาท แต่ยังไม่ระบุแน่ชัดว่าจะเข้ามอบตัววันไหน ต้องรอให้นายประพันธ์ติดต่อกลับมาอีกครั้ง ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือขณะนี้ได้ส่งชุดติดตามไล่ล่าแล้ว ซึ่งได้รับการยืนยันว่านายวีระศักดิ์ หรือ โก้ เชื้อลี หลบหนีข้ามไปที่ประเทศลาวจริง ในวันที่ 14 หรือ 15 พ.ย.ที่ผ่านมานี้
      
       ต่อมาเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.อิทธิพล กิจสุวรรณ ผอ.ศูนย์เทคโนโลยี สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น.เพื่อประสานข้อมูลกับตำรวจในคดีดังกล่าว โดยมี พล.ต.ต.อิทธิพล ภิริยะภิญโญ พล.ต.ต.เอื้อพงศ์ โกมารกุล ณ นคร รองผบช.น.เข้าร่วมหารือโดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง จากนั้น พ.ต.อ.อิทธิพล กล่าวว่า เดินทางมาประสานข้อมูลกับทางตำรวจ หลังจากเมื่อวานนี้ (20 พ.ย.) มีการแถลงจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติม เพื่อรับทราบข้อเท็จจริงทางคดี รวมทั้งดูจำนวนเงินของกลางที่ตำรวจยึดคืนมาได้ว่าตรงกับที่สื่อมวลชนนำเสนอ หรือไม่ จากนั้นก็จะนำข้อมูลทั้งหมดไปเสนอผู้บังคับบัญชาต่อไป ทั้งนี้ หากมีการจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีกก็จะมีการประสานขอข้อมูลเพิ่มเติมจาก ตำรวจอีกครั้ง แต่อาจไม่จำเป็นต้องเดินทางมาโดยใช้วิธีประสานงานกันทางโทรศัพท์แทนก็ได้
      
       ต่อมาเมื่อเวลา 14.15 น. พ.ต.อ.ธวัช วงศ์สง่า ผกก.สน.วังทองหลาง พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.วังทองหลาง เดินทางมาที่ บก.สส.บช.น.เพื่อประสานขออายัดเงินของกลางในคดีดังกล่าว เป็นเงินสดกว่า 16 ล้านบาท เพื่อนำไปเก็บรักษาไว้ที่ สน.วังทองหลาง จนกว่าคดีจะถึงที่สิ้นสุด
      
       ด้าน พล.ต.ต.เอื้อพงศ์ กล่าวว่า วันนี้ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ได้ประสานขอดูเงินสดของกลางในคดีนี้ รวมทั้งตรวจสอบสายรัดเงิน เพื่อตรวจสอบหาแหล่งที่มาของเงิน ส่วนคนร้ายที่เหลืออีก 4 คน ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัว เชื่อว่า จะได้ตัวในเร็ววันนี้ ทั้งนี้ จากการสอบสวนนายชยธัช หรือ เอก จันนะชัย อายุ 34 ปี ผู้ต้องหารายล่าสุดที่เข้ามอบตัว เมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา ในเบื้องต้นให้การรับสารภาพ แต่พอในชั้นสอบสวนกลับให้การปฏิเสธ แต่ในแนวทางการสืบสวนของตำรวจ รวมถึงจากการสอบปากคำผู้ต้องหาซึ่งเป็นตัวละครสำคัญในคดีที่ถูกจับกุมตัวได้ ก่อนหน้านี้ก็ได้ให้การซัดทอดไปถึงนายชยธัช
      
       อย่างไรก็ตาม หากเจ้าหน้าที่สามารถจับกุม นายวีระศักดิ์ หรือ โก้ เชื้อลี อายุ 36 ปี หัวหน้าแก๊งได้ ก็เชื่อว่า ความจริงทุกอย่างจะกระจ่างชัดมากขึ้น โดยในขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าชุดสืบสวนลงพื้นที่ติดตามนายโก้ไปยังประเทศลาว และประสานงานกับตำรวจฝั่งลาวในการร่วมมือติดตามจับกุมตัวนายโก้ คาดว่า น่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้