วันเสาร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2554

เปิด 15 จุดเสี่ยงน้ำท่วม พื้นที่ กทม.ชั้นใน

ผอ.สำนักการระบายน้ำ กทม. เผยจุดเสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซาก 15 แห่ง ถ้า น้ำฝน น้ำเหนือ และน้ำทะเลหนุน ก็เสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมได้ 

เมื่อวันที่ 8 ต.ค.นายสัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพ มหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า สำหรับพื้นที่ชั้นใน กทม.จากการสำรวจพบว่า มี 15 พื้นที่เป็นจุดอ่อนและเสี่ยงต่อน้ำท่วม ถ้า 3 น้ำมาพร้อมกัน ทั้งน้ำฝน น้ำเหนือ และน้ำทะเลหนุน ก็เสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมได้ เพราะกรุงเทพฯเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ มีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ ง่ายต่อน้ำท่วมขัง ได้แก่ 1)เขตสาทร ย่านถนนจันทร์ เซนต์หลุยส์ สาธุประดิษฐ์ 2)เขตพญาไท ถนนพหลโยธิน ช่วงคลองสามเสน-คลองบางซื่อ 3)เขตพระโขนง ถนนสุขุมวิท จากคลองพระโขนง-ซอยลาซาล 4)เขตวัฒนา ซอยสุขุมวิท 39 และ 49 5)เขตวังทองหลาง ถนนลาดพร้าว จากคลองลาดพร้าว-ห้างเดอะมอลล์ 6)เขตบึงกุ่ม ถนนนวมินทร์ จากคลองดอนอีกา-แยกถนนประเสริฐมนูกิจทั้งสองฝั่ง
7)เขตดินแดง ถนนรัชดาภิเษก หน้าห้างโรบินสัน 8)เขตจตุจักร ถนนรัชดาภิเษก แยกลาดพร้าว 9)เขตราชเทวี ถนนเพชรบุรี จากถนนบรรทัดทอง-แยกราชเทวี 10)เขตราชเทวี ถนนนิคมมักกะสัน 11)เขตราชเทวี ถนนพระรามที่ 6 หน้าตลาดประแจจีน 12)เขตบางแค ถนนเพชรเกษม ซอย 63 (ซอยวัดม่วง) 13)เขตยานนาวา ถนนเย็นอากาศ จากถนนนางลิ้นจี่- ซอยศรีบำเพ็ญ 14)เขตประเวศ ถนน ศรีนครินทร์ ช่วงคลองตาสาด-คลองตาช้าง และ 15)เขตพระนคร ถนนสนามไชยและถนนมหาราช 
นายสัญญา กล่าวต่อว่า ปัจจุบัน กทม.เตรียมรับมือเต็มที่ เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำตลอด 24 ช.ม. ล่าสุดซื้อกระสอบทรายเพิ่มอีก 1.5 ล้านถุง เพราะทุกเขตขอเข้ามา นอกจากนี้ยังได้ขุดลอกคลองให้ระบายน้ำได้เร็วขึ้น ดูแลประตูระบายน้ำ เครื่องสูบน้ำ สถานีสูบน้ำ รวมถึงประสานงานกับกรมชลประทานช่วยบริหารจัดการน้ำผ่านคลองและอุโมงค์ลงสู่ทะเล 
"ถ้าน้ำมามากเกิน คนกรุงต้องยอมรับสภาพ ซึ่งปริมาณน้ำฝน กทม.รับมือได้เต็มที่ 1,500-1,600 ลบ.เมตรต่อวินาที ส่วนแม่น้ำเจ้าพระยารับได้ 3,000-3,500 ลบ.เมตรต่อวินาที" นายสัญญา กล่าว