ประชาขนต้องถล่มรัฐบาลทุกวัน
ปัญหาใหญ่ของชาติ...เรื่องน้ำมันแพง...ถ้าทุกคนรู้ความจริงปัญหานี้มีทางออก!!! แก้ไขได้จริง...
เมื่อคนที่มาเล่นการเมือง พอเป็นแล้ว ส.ส. ก็จะพูดว่า จะทำประโยชน์ให้ชาติบ้านเมือง
ขอแค่ปัญหาเดียวก่อน ส.ส.เธอจะทำไหมทำ.!!
เพื่อการเข้าใจง่าย...จะลำดับการเล่าเรื่องเป็นข้อๆ..
1. ต้นตอมาจาก ปตท. เพราะเป็นหน่วยงานของรัฐ แต่ใหญ่กว่ารัฐบาลเพราะ ไม่สามารถเข้าไปควบคุมได้
ขอถาม ส.ส.ในรัฐสภาไทยวันนี้ว่า จริงไหม?
2. ปตท. ตั้งขึ้นมาเพื่อป้องกันผู้ค้าน้ำมันต่างชาติ ผูกขาด ต่อมารัฐบาลคุณทักษิณ มาแปรรูปให้ประชาชนได้มีโอกาสถือซื้อหุ้นกับปตท. โดยใช้เหตุผลว่า ประชาชนทุกคนจะได้เป็นเจ้าของ น้ำมันจะได้ไม่แพง เมื่อเปิดให้มีการจองหุ้น ผล มีแต่ ส.ส. รัฐมนตรี นายทุนอำมาตย์เก่า นายทุนรุ่นใหม่ เครือญาติคนรวยไม่กี่ตระกูล จองได้และเป็นผู้ถือหุ้นตัวจริง งานนี้ประชาชนถูกหลอกเป็นเพียงตัวละครประกอบฉากเท่านั้น
ขอถาม คนรวยที่สุดของประเทศไทย 50 สำดับแรกว่า เรื่องนี้จริงไหม?
3. ไม่ว่าน้ำมันต่างประเทศราคาจะถูกลงหรือราคาจะเพงขึ้น ปตท.จะออกมาบอกว่า วันนี้น้ำมันถูกลง ก็ไม่ประกาศทันที ตรงนี้ปตท.กำไรเท่าไร ที่ประชาชนไม่ได้ซื้อน้ำมันราคาถูกทันที ถ้าวันนี้น้ำมันแพง กลับไปใช้ราคาน้ำมันประเทศสิงคโปร์มาประกาศ ตรงนี้ทำให้ปตท.กำไรเท่าไร
ขอถาม บอร์ดปตท.ว่า เรื่องนี้จริงไหม
4. แต่พอสิ้นปีงบประมาณ ปตท. สรุป มียอดกำไรเป็นแสนล้านทุกปี แต่เงินกำไรประเทศชาติไม่ได้อะไร
กลับเป็นคนรวยไม่กี่ตระกูล ส.ส.ในสภาและเครือญาติ
ขอถาม ผู้ถือหุ้นปตท.ว่า เรื่องนี้จริงไหม
5. ปตท.ทำกำไรให้นายทุนผู้ถือหุ้น ทั้งขาน้ำมันราคาขึ้นและทั้งขาราคาน้ำมันลง พฤติกรรมปตท.แบบนี้
กลายเป็นมะเร็งร้ายคอยดูดเงินผู้ใช้น้ำมันทั้งประเทศ เป็นสาเหตุให้สินค้ามีราคาแพงขี้นและเมื่อสินค้ามีราคาแพงขึ้น ก็ไม่มีวันลดลงด้วย
ขอถาม นักเศรษฐศาสตร์ ครู อาจารย์ ทุกสาขา จนไปถึงประชาชนทั่วประเทศว่า เรื่องนี้จริงไหม
6. คำถาม เมื่อผู้อ่านถามว่า รู้แล้วได้อะไร ใครจะมาแก้ไขให้ เพราะ มันเป็นขุมทรัพย์เป็นผลประโยชน์ของผู้มีอำนาจในรัฐสภา ในรัฐบาล แล้วเรื่องกฎหมายจะแก้กันอย่างไร คำถามแบบนี้น่าสนใจ
คำตอบคือ แบบที่หนึ่ง 1. ใช้มติครม.ยกเลิกปตท.แบบเดิมให้มาเป็นของรัฐ 2. ซื้อหุ้นคืนให้หมด
แบบที่สอง 1. ยุบปตท.ทิ้ง เปิดให้มีการมาสร้างโรงกลั่น การผลิต การจำหน่ายน้ำมันโดยเสรี
7. เมื่อราคาน้ำมันในประเทศไทย ราคาแพงกว่า ประเทศรอบบ้าน ประชาชนไม่มีทางออก ก็ต้องขนน้ำมันเถื่อนมาใช้ ทางวิชาการก็ถือว่าถูก เพียงแต่ผู้มีอำนาจในปตท. ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ ให้ตำรวจจับน้ำมันเถื่อน แต่อีกมุมหนึ่ง คนดีๆอย่างเราๆ ก็ใช้น้ำมันของปตท.ที่ว่าเป็นน้ำมันถูกกฎหมาย เม็ดเงินกำไรที่
ปตท.ขายน้ำมันได้ เงินเหล่านั้นก็มิได้มาช่วยประเทศไทยให้เจริญอะไรเลย แต่กลับปันผลให้พวกบุญหนักศักดิ์ใหญ่ พวกถือหุ้นให้ รวยขึ้น รวยขึ้นทุกวัน
8. เมื่อทุกท่านอ่านมาถึงตรงนี้ รู้ทางออกของปัญหา รู้วิธีแก้ไขปัญหาน้ำมันแพงแล้ว
คำถาม ใครจะมาทำให้ประชาชน 65 ล้านคนวะ !!!
คำตอบ ให้ ส.ส.ที่เป็นตัวแทนแต่ละจังหวัด มารับปัญหาน้ำมันแพง แล้วให้ไปแก้ไขในสภา
ถ้าล้มเหลว ส.ส.มันไม่แก้ไข กลับดองเรื่องไว้ เพราะ จะไปทุบหม้อข้าวพ่อตา แม่ยาย ลูกเมีย ลูกเขย ลูกสะใภ้ ของพวกมัน ประชาชนทั้งประเทศจะยอมให้ปตท.มันข่มขืนเงินเราไปเรื่อยๆ
จนกว่าเราจะสิ้นลมหรือ???
ปัญหาน้ำมันแพงนี้ ก็ยังมีทางออกสุดท้ายคือ ส.ส.ที่เป็นตัวแทนของเรา เมื่อส.ส.ทำไม่ได้
ก็ไล่ ส.ส. พวกนี้ออกไป!! มีสามแบบ 1. ถอดถอน วิธีนี้ดูแล้วไม่ได้เรื่อง 2. เอาปืนไปจ่อหัวส.ส. วิธีนี้มีทหารเท่านั้นที่ทำได้ 3. ชาวบ้านที่ทนไม่ไหวรวมตัวเป็นเรือนแสนออกมาขับไล่
ตามประวัติศาสตร์ ประเทศใดที่มีนักการเมืองโกงกินและเป็นรัฐบาล
ถ้าไม่ปฎิวัติไล่มันไป เพราะ มันไม่ยอมปฎิวัติตนเองเพื่อประชาชน
ตามข้อมูลปรากฎว่า ส.ส.ในรัฐสภาปกครองบ้านเมืองแบบเผด็จการ ไม่ฟังเสียงประชาชน ชอบพูดวาทกรรมว่า ผมมาจากการเลือกตั้ง ส่วนที่ใช้เงินซื้อเสียงมาไม่พูด แล้วอ้างเอาความชอบธรรมว่า เป็นระบอบประชาธิปไตย เวลาจะเป็นเผด็จการเรื่องใด เมื่อเปิดสมัยประชุมสภา ชาวบ้านนั่งดูทีวี ฟังการอภิปราย การแปรญัตติ ดูแล้วไม่มีประโยชน์อะไรต่อชาติบ้านเมืองเลย เสียเวลาเปล่าๆ ท้ายสุดก็ต้องมาโวตเสียงส.ส.รับรอง เมื่อฝ่ายที่เป็นรัฐบาลมีเสียงมากกว่า เมื่อโวตเสียงให้การรับรองเรื่องใด ก็ชนะผ่านสภาทั้งปี กฎหมายใดที่มันต้องการแก้ ก็ไม่มีใครขวางมันได้ น่าสงสารประเทศไทย
แบบนี้จะเรียกว่า เป็นประชาธิปไตยได้อย่างไร มาตอนนี้ประชาชนเขารู้ทั้งประเทศแล้วว่า รัฐบาลปัจจุบันปกครองบ้านเมืองเป็นระบบเผด็จการ หากมีเสียงสะท้อนจากประชาชนคงจับใจความได้ว่า
ใครก็ตามที่มีอำนาจปกครองบ้านเมือง ไม่เอาผลประโยชน์ของชาติเป็นตัวตั้ง กลับเอาผลประโยชน์ให้กับตัวเอง
สรุป นักการเมืองพวกนั้นเป็นนักปกครองชั้นเลวหรืออีกนัยหนึ่งก็คือ พวกทุจริตพวกคอรัปชั่น !!! นั่นเอง.
