วันพุธที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2554

ศูนย์ข่าวศรีราชา-สายลับรายงานพบความเคลื่อนไหวใช้อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น เป็นคลังแสง แหล่งสะสมกระสุนปืน สั่งตรงมาจากสาธารณรัฐเชคโกสโลวาเกีย หรือยุโรปกลาง ผกก.สภ.นาจอมเทียน สัตหีบ นำกำลังบุกเข้าตรวจสอบ ผงะพบกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 จำนวน 212,500 นัด เจ้าของอ้างซื้อมาใช้ในการประกอบธุรกิจสนามยิงปืนนาจอมเทียน แต่มีการส่งขายให้เครือข่าย ในเขตกรุงเทพมหานคร

วันนี้ (13 เม.ย.54) พ.ต.อ.เกียรติพงษ์ นำลา ผกก.สภ.นาจอมเทียน ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พ.ต.ท.พีระพงษ์ เหล่าธนาวิน รอง ผกก.ป.ฯ พ.ต.ท.วิทศวรุตม์ ไทยธานี สวป.ฯ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้เดินทางเข้าตรวจสอบอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ติดถนนสุขุมวิท สาย 3 เลขที่ 102/4 หมู่ที่ 1 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ ซึ่งประตูเหล็กด้านหน้าปิดสนิท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เรียก จนในที่สุด นายธีระ ผาวันดี อายุ 44 ปี มีภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านเลขที่ 45/330 ซอยวัดสุขใจ 13 แขวงสามวาตะวันออก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร เปิดประตูให้

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขอเข้าตรวจสอบภายในอาคารดังกล่าวทั้ง 3 ชั้นบริเวณชั้นล่างพบกล่องบรรจุกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 ยี่ห้อ SELLIER and BELLOT วางเรียงอยู่ภายในห้องกรงเหล็กที่ปิดกั้นด้วยไม้มิดชิด จำนวน 750 กล่องใหญ่ และชั้นที่ 3 พบกล่องกระสุนปืนชนิดเดียวกันอีกจำนวน 100 กล่อง ภายในบรรจุกระสุนกล่องละ 250 นัด รวมกระสุนทั้งสิ้น 212,500 นัด มีทั้งแบบใส และสีแดงทึบ ในเบื้องต้นได้ทำการอายัดไว้เพื่อตรวจสอบ เอกสาร และความเป็นมาของกระสุนปืนชนิดนี้

จากการสอบสวน นายธีระ ผาวันดี (คนเฝ้า)ให้การว่า กระสุนปืนทั้งหมดนี้เป็นของ นายวิเชียร เษมศรี อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/4 หมู่ที่ 1 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้ทำการสั่งซื้อ และนำเข้ามาจากประเทศเชคโกสโววาเกีย หรือยุโรปกลาง เพื่อประกอบธุรกิจสนามยิงปืน พร้อมกับนำส่งขายให้ลูกค้าในเขตกรุงเทพมหานคร แต่ไม่สามารถนำส่งได้เพราะเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์มีด่านตรวจตลอดเส้นทาง จึงได้พักไว้ในอาคารพาณิชย์ โดยมีผู้นำมาส่งให้ตั้งแต่ วันที่ 4 เมษายน 2554 จำนวน 1,000 กล่อง แต่ได้ส่งขายให้ลูกค้าไปแล้ว 150 กล่อง จึงเหลือเพียง 850 กล่อง

ต่อมา นายวิเชียร เษมศรี เจ้าของกระสุนปืน ได้เดินทางมาพร้อมนำเอกสารใบอนุญาตสั่งหรือนำเข้าเครื่องกระสุน หรือใบ ป.2 จำนวน 270,000 นัด เพื่อประกอบกิจการสมาคมส่งเสริมกีฬายิงปืนนาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งออกจากที่ว่าการอำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมี นายชายชาญ เอี่ยมเจริญ นายอำเภอสัตหีบ และนายทะเบียนอาวุธอำเภอสัตหีบ เป็นผู้ลงนามอนุญาต ตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม 2553 สิ้นสุดเดือน 13 มกราคม 2554 โดยได้มอบอำนาจให้ บริษัท ยีพี อินเตอร์อาร์ม จำกัด เป็นผู้ดำเนินการ

ซึ่งในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอทำการอายัดกระสุนปืนดังกล่าวไว้ตรวจสอบการนำเข้า ถ้าตรวจสอบแล้วว่าไม่ตรงตามใบสั่งซื้อ หรือไม่ได้รับอนุญาตถูกต้องจะต้องดำเนินคดีในข้อหา นำพาเครื่องกระสุนเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต และตรวจสอบสนามยิงปืนในพื้นที่สัตหีบว่ามีสนามยิงปืนใดที่สั่งซื้อหรือมีการซ้อมยิงปืนลูกซองจริงหรือไม่