วันเสาร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2554

บทความ วันฟ้าใหม่ของประเทศ โวตโน ตอนที่ 2.



บทความ วันฟ้าใหม่ของประเทศ โวตโน ตอนที่ 2.

จากบทความตอนที่ 1. ขอทวนประโยคคำถามก่อนว่า จะประชาสัมพันธ์อย่างไรให้ประชาชน 65 ล้านคน เข้าคูหากา "โวตโน" ที่หมายความว่า ทุกคนไปใช้สิทธิ์เข้าคูหา ไปกาในช่องที่ไม่เลือกใคร ไม่เลือกพรรคใด ทั้งสองบัตรที่ใช้ลงคะแนนเลือกตั้ง สังเกตุ จะเห็นตำแหน่ง ให้กาไม่เลือกใครและไม่เลือกพรรคใด จะอยู่ตรงด้านล่างมุมขวามือของบัตรเลือกตั้ง.

รัฐบาลปัจจุบันได้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า จะยุบสภาประมาณต้นเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2554 ถ้าเป็นจริงตามนี้ ลำดับต่อไปก็จะเป็นหน้าที่ขององกรค์อิสระที่มีชื่อว่า กกต. จะต้องประกาศวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้งภายใน = 60 วัน ฉะนั้นในเวลานี้ก็จะมีพรรคการเมืองใหญ่ที่จะลงมาสมัครเลือกตั้ง 2 พรรค ต่างก็เป็นพรรคประเภทที่ประชาชนจับได้เรื่อง พรรคหนึ่งโกงชาติ,ล้มเจ้า ดูได้จาก พลพรรคแกนนำต่างโดนดำเนินคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ อีกพรรคหนึ่งขายชาติ,แต่ไม่ปกป้องเจ้า ดูได้จาก
การปล่อยปะละเลยให้มีการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพในเว็บต่างๆ ไม่เชื่อก็ลองเข้าไปที่เว็บ youtube พิมพ์เรื่องที่เกี่ยวกับเจ้า ทุกท่านก็จะพบมีอยู่ในเว็บมากมาย ส่วนพรรคขนาดกลางและขนาดเล็กก็จ้องจะผสมพันธุ์กับพรรคใดก็ได้ เพื่อมามีอำนาจแบบส.ส.เฒ่าจะอยู่ค้ำฟ้า...

ตามข้อเท็จจริง การบริหารบ้านเมืองของประเทศไทยเรานั้น ไม่ว่า จะเป็นพรรคใดที่ชนะการเลือกตั้ง ต่างก็ใช้เงินซื้อเสียงประชาชนทั้งสิ้น พอมาเป็นรัฐบาลก็จะมาโกง กิน ขายชาติ อีก ไม่ต่างกับวาทกรรมที่ว่า ประชาชนไล่คุณอับปรีย์ไป แต่จะได้คุณจัญไรกลับมา ถ้ามีการเลือกตั้งต่างคนต่างเลือกส.ส.และพรรค ผลอาจจะได้ทั้งคุณอับปรีย์และคุณจัญไรมารวมกันมาเต็มสภา ที่เราเรียกว่าคุณโจร 500 เข้ามาเพื่อทำลายชาตินั่นเอง
สรุป เลือกตั้งไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ถ้าเราคิดว่า จะไปเลือกส.ส.และพรรค

เหตุผลที่น่าฟัง การพัฒนาประเทศหรือหาทางออกให้ประเทศไทย ทุกคนต้องช่วยกันแก้ปัญหาชาติตามกระแสพระราชดำรัสขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับสั่งว่า อย่าให้คนชั่วเข้ามามีอำนาจ ใครก็ตามถ้าเข้ามาทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เมื่อมีการเลือกตั้ง
ก็จะเป็นโอกาสของประชาชนที่มีสิทธิ์ไปเลือกตั้งทั่วประเทศว่า ข้าพเจ้าขอให้วาจาสัตย์สาบานว่า
ข้าพเจ้าจะไม่พาผู้สมัครส.ส.และพรรคใด ที่พวกเราเรียกว่า พวกคุณอับปรีย์และพวกคุณจัญไร เข้าสภาเด็ดขาด เพื่อการเปลี่ยนแปลง เปิดรับสมัครประชาชน แล้วเลือกกันเอง ที่เรียกว่า การตั้งสสร.นั่นเอง ต่อมาให้เหลือจำนวนที่เหมาะสม แล้วช่วยกันร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญที่เขียนขึ้นใหม่แบบชัดเจน ไม่มีหมกเม็ด พร้อมร่างกฎหมายลูกไว้ด้วย ให้กฎหมายมีเจตนารมณ์เป็นคุณต่อประชาชนส่วนใหญ่อย่างเป็นธรรม ที่สำคัญแก้กฎหมายเรื่อง การทุจริตของนักการเมือง เช่น คดีอาญาไม่มีอายุความ มีโทษจำคุกสูง เมื่อคดีตัดสินให้มีความผิดต้องยึดทรัพย์และเว้นวรรคทางการเมืองตลอดชีวิต นักการเมืองไม่ต้องสังกัดพรรค เมื่อร่างกฎหมายเสร็จแล้ว ก็นำมาให้ประชาชนทั่วประเทศลงประชามติ คืนอำนาจประกาศให้มีการเลือกตั้งส.ส.ให้มีที่มาสองแบบคือให้มีการคัดสรรประชาชนทุกสาขาอาชีพเป็นตัวแทนไปนั่งในสภา ตามสัดส่วนของอาชีพ เริ่มต้นส.ส.ที่มาจากการคัดสรร 60 %  ส.ส.มาจากการเลือกตั้ง 40 % เมื่อได้ส.ส.เป็นตัวแทนประชาชนแล้ว จำเป็นจะต้องมาสร้างระบบการเมืองในปัจจุบันที่ล้มเหลว ตัวอย่าง เวลาประชาชนออกมาบอกนักการเมืองให้แก้กฎหมาย บทลงโทษนักการเมืองเลวหรือกฎหมายที่มีประโยชน์ต่อส่วนรวม พวกส.ส.น้ำเน่าแบบเก่ากลับไม่ทำ ไม่เห็นหัวประชาชน แต่กลับจะแก้กฎหมายเพื่อประโยชน์ของตนและพรรค หรือพวกส.ส. คุณ500 จะว่าไม่จริง!!!  ภายหลังการเลือกตั้งเราจะได้ส.ส.ดีๆมาปกครองบ้านเมือง
สรุป นักการเมืองไม่ว่าคนใด พรรคใด โกงชาติ ทำลายชาติก็เท่ากับทำร้ายพ่อของแผ่นดินเช่นกัน!!!

ขอตอบคำถาม บทความตอนที่ 1. เพียงสองบรรทัดว่า
คนไทยทุกคน, คนที่รักชาติ, คนรักพ่อของแผ่นดิน, คนที่ลุกขึ้นมาต่อสู้กับความไม่ถูกต้องเพื่อบ้านเพื่อเมือง
จะขอร่วมมือกัน ไปเลือกตั้ง เข้าคูหา ไปกาในช่องไม่ประสงค์จะเลือกใครและไปกาในช่องไม่ประสงค์จะเลือกพรรคใด...

ด้วยเหตุผลที่พูดทุกครั้ง ก็น้ำตาไหลทุกที คือ หลับเถิดทหารกล้า ชาวประชาจะปกป้อง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เอง............
เพราะ เบี้ยตัวสุดท้ายไม่กี่ท่าน ที่มีอานาจ มีเกียรติยศ ที่มีหน้าที่ตามพ.ร.บ.ทหาร คุณท่านไม่ทำหน้าที่ แบบนี้คนไทยที่เป็นผู้รักชาติ แต่ไม่มีอำนาจ คงจะต้องออกมาช่วยกันกู้ชาติให้พ้นวิกฤติร่วมกับทหารที่รักชาติทุกหมู่เหล่า ตำรวจ ข้าราชการ ประชาชน ที่มีหัวใจรักพระเจ้าแผ่นดินเหมือนกัน  เพื่อแก้ไขระบบส.ส.ที่โกงชาติ ขายชาติ ทุจริต ทำลายชาติ ให้ออกไปจากระบบ ประเทศไทยจะได้เจริญเสียที โดยไปเลือกตั้ง เข้าคูหา กาไม่เลือกใคร...  กาไม่เลือกพรรคใด... เพื่อไม่พาคนไม่ดีให้เข้ามามีอำนาจปกครองบ้านเมือง ตามรับส้่งพระราชดำรัสองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของปวงชนชาวไทย...