วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2554

พลันที่ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทยออกมาแฉเรื่องบ่อนกลางกรุง กลางที่ประชุมรัฐสภาในวันแถลงนโยบายของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็เล่นเอาวงการสีกากีป่วนกันอย่างถ้วนหน้า เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า แม้ของแบบนี้จะมีอยู่คู่กับกรุงเทพมหานครมาตั้งยุคไหน ตามนิสัยรักการพนันของคนไทย แต่ที่ผ่านมา ปัญหาก็ถูกซุกอยู่ใต้พรมมาโดยตลอด ไม่มีใครกล้าลุกขึ้นมาพูด เพราะนอกจากจะมีอิทธิพลมืดหนุนหลังแล้ว ทำให้ใครหน้าไหน ก็ไม่สามารถกระชากความเสื่อมโทรมนี้ให้ออกจากสังคมไทยไปได้ ดีไม่ดีอาจเจอพิษไข้โป้งจ่อสมองเอาง่ายๆ
    
       เพราะ ‘เศรษฐกิจการพนัน’ ที่อยู่โลกมืดถูกผันให้เป็นเม็ดเงินใต้ดินนั้น เป็นท่อน้ำเลี้ยงที่สำคัญในวงการสีกากีมาตลอดทุกยุคสมัย จึงไม่เรื่องแปลกเลยว่า ทำไมที่ผ่านมา ภาพที่เห็นจึงไม่พ้น ออกข่าวทีหนึ่งก็ไปปิดทีหนึ่ง อย่างที่ครั้งหนึ่งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เคยตื่นตูมในการจับตู้ม้าก่อนที่กระแสจะหายไป เพราะไม่ค่อยได้ความร่วมมือจากผู้เกี่ยวข้องเท่าใดนัก
       เพราะฉะนั้นการแฉครั้งนี้ (ไม่ว่าจะมีวาระซ่อนเร้นหรือเปล่า) จึงถือเป็นการตบหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจแบบเห็นๆ และยังนับฤกษ์ดีที่เรื่องที่ถูกซุกซ่อนไว้ตลอด อย่างเรื่องบ่อนจะถูกนำมาพูดคุยบนเวทีของสังคมไทยแบบจริงๆ เสียที
    
       บ่อนแบบไทย สนุกได้แบบวาไรตี้
       แต่อย่างว่า เพื่อให้ภาพแบบชัดๆ ของรูปแบบบ่อนการพนันกับสังคมไทยว่า มันช่างเชื่อมโยงกันมานานแสนนาน คงจะต้องอธิบายภาพกันแบบละเอียดเสียก่อนว่า แท้ที่จริงแล้วในประเทศไทย เขามีวิธีการและรูปแบบที่แตกต่างกันเช่นใดบ้าง และจากพูดคุยกับ ศักดา (นามสมมติ) นักพนันมือสมัครเล่นคนหนึ่งก็ได้รับคำอธิบายว่า
    
       “บ่อนแบบแรกๆ ที่ผมเห็นมาตั้งแต่เด็กเป็นพวกบ่อนไพ่ขนาดเล็กที่มีแต่การเล่นไพ่อย่างเดียว เล่นตั้งแต่ไพ่ป๊อก, รัมมี่, เก้าเก และอีกหลายแบบ ส่วนใหญ่เป็นนักพนันมือสมัครเล่น เสียมากสุดแค่หลักพัน พอโตขึ้นมาก็มีโอกาสไปบ่อนใหญ่ๆ ในกรุงเทพฯ แบบถาวรเลย เขาว่ามีเป็นสิบบ่อนเลย”
    
       เพราะฉะนั้น จึงกล่าวได้ง่ายๆ ว่า ลักษณะของบ่อนในสังคมจึงแบ่งได้ออกเป็น 2 รูปแบบชัดเจน คือบ่อนขนาดเล็กหรือขนาดย่อม ซึ่งเรียกง่ายๆ ว่า ‘บ่อนชาวบ้าน’ กับบ่อนที่ทำเป็นธุรกิจจริงๆ ซึ่งเป็นบ่อนขนาดใหญ่แบบ ‘บ่อนกาสิโน’ โดยแต่ละชนิดยังสามารถแบ่งออกเป็นย่อยๆ ลงไปได้อีก
    
       - บ่อนชาวบ้าน บ่อนแบบนี้ถือเป็นบ่อนที่คนไทยคุ้นเคยมากที่สุด เพราะทำได้ง่ายๆ ไม่ต้องอาศัยทุนทรัพย์มากมาย โดยขนาดนั้นก็คืออยู่กับว่ามีสมาชิก และเพื่อนร่วมทีมมากแค่ไหน ตัวอย่างที่เห็นชัด ก็เช่น
    
       1. 'บ่อนในครอบครัว' ซึ่งคนเล่นส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นคนบ้านใกล้เรียงเคียงนี่แหละ โดยอาจจะตั้งวงไพ่ในบ้านของสมาชิกคนใดคนหนึ่ง หรือแม้แต่งานศพ (อ้างว่าหากิจกรรมทำยามต้องเฝ้าศพ) โดยถือหลักว่า ทำยังไงก็ได้ให้ไกลหูไกลตาตำรวจมากที่สุด (เพราะส่วนใหญ่บ่อนพวกนี้ไม่มีอิทธิพลหนุนหลัง) และที่สำคัญต้องมีคนคอยดูต้นทาง ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นลูกๆ หลานๆ นี่แหละ และเมื่อได้รับการส่งสัญญาณว่า มีตำรวจมา บรรดาผีพนันทั้งหลายก็ต้องรีบซุกซ่อนอุปกรณ์ให้ดี แต่ถ้าไม่ทันก็เหมือนก็จงทำตัวให้เหมือนในละครเปี๊ยบๆ เลย นั่นคือ โกยเถอะโยม!
    
       2. 'บ่อนสัตว์' นับว่าภูมิปัญญาในการหาความสนุกของชาวบ้านไทยโดยแท้ ที่จะนับบรรดาสัตว์เล็กสัตว์น้อยมาแข่งขันประลองฝีมือกัน ที่คุ้นๆ เช่น ชนไก่ กัดปลา แข่งวัว ชนวัว ซึ่งบ่อนพวกนี้มักจะมีกฎหมายรองรับ พูดง่ายๆ คือทำได้ถ้าขออนุญาตถูกต้อง แต่ทั้งนี้มีอีกไม่น้อยที่ไม่ยอมขออนุญาต หรือนำสัตว์อื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือกฎหมายเช่นสุนัข เป็นต้น
    
       - บ่อนใหญ่ที่ทำธุรกิจบ่อนแบบจริงจัง เรื่องนี้ถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จของการพนันก็ไม่ผิด เพราะเมื่อมีเรื่องเงินๆ ทองๆ มาเกี่ยวข้อง กำไรรายได้ก็เป็นสิ่งที่ผู้คนแสวงหา ที่สำคัญต้องยอมรับว่านี่คือผลพวงของช่องว่างที่ธุรกิจมืดนี้ยังเป็นเรื่อง ผิดกฎหมายอยู่ ก็เลยทำให้มีบ่อนแบบนี้เกิดขึ้นเต็มไปหมด แถมมีหลายรูปแบบ เช่น 1. 'บ่อนวิ่ง' เป็นบ่อนที่มีอยู่มากทั้งตามงานวัด หรือบางที่เป็นการเช่าพื้นที่ตามแหล่งชุมชนเพื่อเปิดเป็นบ่อนแบบง่ายๆ ไปจนถึง การเล่น ไฮโล กำถั่ว โดยจะมีชิงช้า ม้าหมุน ปาลูกโป่งเป็นเซ็ตที่แถมมาด้วย ดังนั้นนักพนันหน้าใหม่จึงเกิดขึ้นมากกับบ่อนลักษณะนี้ ด้วยเกมการเล่นเร้าใจ ได้เงินง่าย บ่อนวิ่งยังรวมไปถึงการที่มีเจ้ามือไปเปิดโต๊ะตามแหล่งต่างๆ เป็นการชั่วคราวโดยไม่มีมหรสพเข้ามาร่วมด้วยก็มี เช่น มีโต๊ะไฮโลโต๊ะเดียวมาเปิดในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ก่อนจะหมุนไปลงพื้นที่อื่นๆบ้าง
    
       2. 'บ่อนกาสิโน' มีลักษณะเป็นหลักเป็นแหล่งถาวร แต่อาจถูกทุบทำลายได้หากเปิดไปสักระยะหนึ่ง ส่วนใหญ่ ประมาณ 2-3 ปี ก็จะเปลี่ยนสถานที่ใหม่ เพื่อเป็นการป้องกันตัวเองจากตำรวจนอกพื้นที่ จะมีขนาดตั้งแต่โต๊ะเดียว ตู้ม้าสองสามเครื่องหลังร้านขายของชำ ไปจนถึงเป็นร้อยโต๊ะ หลากหลายประเภทพนันรวมอยู่ด้วยกัน ทั้งไพ่ป๊อก8 - 9 บาคาร่า กำถั่ว ไฮโล ตู้ม้า สล็อตแมทชีน รูเล็ตต์ แบล็กแจ็ก ฯลฯ โดยบ่อนลักษณะนี้จะมีเงินสะพัดมากที่สุด และมีการเปิดเป็นสาขาย่อยตามพื้นที่ต่างๆ อย่างกว้างขว้างอีกด้วย โดยส่วนใหญ่บ่อนกาสิโนจะมีเจ้าของเงินทุนเป็นคนเดียว แต่มีเส้นสายที่ใหญ่มาก ปัจจุบันยังมีอ็อปชั่นเสริมโดยการเปิดให้เล่นออนไลน์ทางอินเทอร์เน็ตจาก กาสิโนอีกด้วย
    
       3. 'บ่อนลอยฟ้า' เป็นการเรียกตามลักษณะการเล่นบนที่สูง เพราะบ่อนลอยฟ้าจะเล่นกันบนคอนโดมิเนียม อาจจะเป็นบ่อนขนาดเล็กๆ มีโต๊ะพนันไม่กี่โต๊ะไปจนถึง บ่อนขนาดใหญ่ที่ใช้เครื่องเล่นแบบเดียวกับกาสิโน บางแห่งก็เป็นของไฮซ้อไฮโซ บางแห่งก็เป็นบ่อนแขนงของกาสิโนใหญ่อีกที
    
       ตั้งบ่อนยังไงให้รอดตัว
       เห็นรูปแบบและสไตล์ของบ่อนในเมืองไทยกันแบบชัดๆ ไปแล้ว คราวนี้ก็มีถึงกลวิธีในการตั้งบ่อนกันบ้าง โดยเฉพาะบ่อนธุรกิจ เพราะอย่างที่รู้กันอยู่แล้วว่า ตอนนี้ถึงของแบบนี้ยังถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ดังนั้นกว่าที่จะเป็นบ่อนจึงเป็นเรื่องที่ทำได้ยากเย็นและต้องมีตัวช่วยเต็ม ไปหมด โดยสิ่งที่จำเป็นสุดที่ต้องเจ้าของต้องมีก็คือ
    
       1. เงิน นี่แหละคือพื้นฐานสำคัญของผู้ที่คิดการใหญ่จะเป็นเจ้าพ่อ หากไร้เงินมีหรือใครจะไปกลัว เพราะฉะนั้น เงินจึงเป็นอุปกรณ์สำคัญสุดๆ เพราะไหนจะมีไว้จ่ายให้บรรดาผู้หลักผู้ใหญ่แล้ว ยังต้องมีค่าบริหารภายในอีกต่างหาก ที่สำคัญก็ธุรกิจนี้ เขาเรียกกันว่าเป็น ธุรกิจเงินหมุน ดังนั้นจึงต้องมีเงินสำรองเตรียมไว้ให้พร้อม เผื่อช่วงที่เจ้าเสียจะได้มีเงินสำรองจ่ายลูกค้าได้ครบ จะได้ไม่เสียหน้า หรือเสียเครดิตได้
    
       2. สถานที่ เมื่อมีเงินก็ต้องมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง เพื่อให้ผู้คนเขาจะมาแวะเวียนกันถูก โดยว่ากันว่าบ่อนส่วนใหญ่นั้นมักจะผุดขึ้นตามที่อโคจรต่างๆ ที่มีคนพลุกพล่านทั้งใกล้ๆ สถานเริงรมย์ ไปจนถึงพื้นที่ใกล้ๆ ตลาดสด หรือเอาง่ายๆ หาพื้นที่ติดกับถนนใหญ่ไปเลย เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทางของลูกค้า ซึ่งความกว้างใหญ่นั้นขึ้นอยู่กับปริมาณงบค่าเช่าในมือ ร่วมไปถึงความเหมาะสมของปริมาณลูกค้าที่จะเข้ามารับบริการด้วย
    
       3. เส้นสาย ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งก็ว่าได้ เพราะธุรกิจแบบนี้มันช่างสุ่มเสี่ยงกฎหมายซะจริงๆ ดังนั้นหากไม่มีแบ็กคอยหนุนหลัง รับรองว่าจะต้องถูกบรรดาขาโจ๋แห่งโรงพักกวาดล้างเอาผลงานเป็นแน่นอน ดังนั้นการเจริญสัมพันธไมตรีก่อนถือว่าไม่ผิด และยิ่งมีคนหนุนหลังช่วยเหลือตำแหน่งสูงเท่าใด ก็ยิ่งเป็นหลักประกันได้ว่า งานนี้ไม่มีวันตายอย่างแน่นอน
    
       4. อุปกรณ์ ความหลากหลายในการเล่นนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญ ยิ่งหากจะเปิดเป็นบ่อยใหญ่ด้วยแล้ว จะให้มาตีดัมมี่อย่างเดียว ก็คงกะไรอยู่ ดังนั้นเพื่อความเป็นสากลของบ่อนไทย ทุกวันนี้หลายแห่งจึงเริ่มนำเข้าอุปกรณ์มากหน้าหลายตามาบรรณาการผู้เล่นกัน อย่างสุดฤทธิ์ ทั้งโต๊ะไฮโล โต๊ะไพ่ รูเล็ตต์ สล็อตแมชชิน ตู้ม้า ฯลฯ แต่สิ่งหนึ่งสำคัญและขาดไม่ได้สุดๆ ก็คือ กล้องวงจรปิด เพราะเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า คนที่เข้าในบ่อนนั้นเสือ สิงห์ กระทิง แรดขนาดไหน เพราะฉะนั้นถ้าไม่จับตาดูให้ดี มีสิทธิ์ถูกโกงเอาได้ง่าย
    
       5. บุคลากร แม้บ่อนไทยจะเกลียดคนโกงเป็นที่สุด แต่เรื่องนี้มีข้อยกเว้นสำหรับตัวเจ้ามือเอง เพราะถ้าไม่ทำจะรวยได้เหรอ เพราะฉะนั้นทางบ่อนจะมีการฝึกคนเป็นพิเศษในการทำหน้าที่ต่างๆ เพื่อให้สามารถโกยเงินเข้ากระเป๋าเจ้าของกิจการให้ได้มากที่สุด