วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2554

โจรกรุงควงปืนบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ร้านทอง ยิงลูกจ้างสาวเจ็บ!


โจรกรุงควงปืนบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ร้านทอง ยิงลูกจ้างสาวเจ็บ!
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม 27 มีนาคม 2554 17:47 น.

เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำลูกจ้างภายในร้านทองที่เกิดเหตุภายหลังถูกคนร้ายบุกเดี่ยวจี้ชิงทรัพย์กวาดทองรูปพรรณน้ำหนัก 60 บาท

เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำน.ส.วิชุดา จันทร์ฉาย อายุ 28 ปี ลูกจ้างขายทองของร้านซึ่งถูกคนร้ายยิงได้รับบาดเจ็บ

ภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านทองที่จับภาพขณะคนร้ายกำลังหยิบทองรูปพรรณในตู้โชว์


โจรกรุงสวมหมวกกันน็อกเต็มใบ ควงปืนบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ร้านทองย่านราษฎร์บูรณะ กวาดทองรูปพรรณหนักร่วม 60 บาท มูลค่ากว่า 1.3 ล้าน ลูกจ้างสาวร้องเรียกคนช่วยถูกยิงเจ็บ ก่อนซิ่ง จยย.หนีลอยนวล

วันนี้ (27 มี.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น. พ.ต.ท.ธีระ กิจบำรุง พนักงานสอบสวน (สบ3) สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกชิงทรัพย์ร้านทอง ก่อนใช้อาวุธปืนยิงคนในร้านได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่ร้านทองจิรสุวรรณ เลขที่ 123/2 ถนนประชาอุทิศ ปากซอยประชาอุทิศ 54 แขวง-เขตทุ่งครุ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รองผบช.น. พ.ต.อ.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบก.น.8 พ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ พ.ต.ท.สมศักดิ์ วงศ์ชัยประเสริฐ รองผกก.ป. และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นครี่ง เปิดเป็นร้านขายทองรูปพรรณ เจ้าหน้าที่พบหยดเลือดจำนวนหนึ่งอยู่บริเวณทางเข้าร้าน โดยภายในร้านพบพนักงานขายทองของร้านยืนจับกลุ่มวิพากษ์ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น สภาพตื่นตกใจ บริเวณตู้กระจกโชว์ทองรูปพรรณ พบกระจกบานเลื่อนถูกเปิดออก มีสร้อยคอทองคำกระจัดกระจาย ที่บริเวณพื้นทางเดินหินอ่อนมีหัวกระสุนฝังอยู่ที่พื้นจำนวน 1 นัด ส่วนคนเจ็บทราบว่า นำส่ง รพ.ราษฎร์บูรณะ ไปก่อนหน้า ทราบชื่อ น.ส.วิชุดา จันทร์ฉาย อายุ 28 ปี ลูกจ้างขายทองของร้าน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่ ก้นด้านซ้าย จำนวน 1 นัด และต้นขาขวา จำนวน 1 นัด แพทย์เร่งทำการรักษาเป็นการด่วน

จากการสอบสวนทราบว่า ร้านขายทองดังกล่าวเป็นของ นางสุนันทา อมรสิริวัฒน์ ซึ่งขณะเกิดเหตุไม่ได้อยู่ร้าน มีเพียงลูกจ้างขายทองทำงานอยู่เพียง 3 คน ระหว่างนั้นพบว่า คนร้ายเป็นชายสูงประมาณ 170-180 ซม.สวมหมวกกันน็อกเต็มใบสีดำ สวมเสื้อคลุม และกางเกงสีดำ พร้อมสวมถุงมือทั้ง 2 ข้าง สะพายกระเป๋าแบบสะพายข้างเปิดร้านตรงเข้ามา ลูกจ้างภายในร้านทั้ง 3 คน จึงพยายามบอกให้ถอดหมวกกันน็อก แต่ปรากฏว่า คนร้ายได้ชักอาวุธปืนก่อนยิงเข้าใส่จำนวน 2 นัด กระสุนพุ่งเข้าที่ตู้โชว์ทอง และฝังที่พื้นทางเดิน

หลังจากนั้น คนร้ายได้เดินอ้อมตู้โชว์ทองเข้ามาที่ด้านหลัง ก่อนเปิดกระจกบานเลื่อนแล้วหยิบทองรูปพรรณอย่างรวดเร็ว เป็นสร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 3 บาท จำนวน 12 เส้น สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท จำนวน 12 เส้น น้ำหนักรวมทั้งหมด 60 บาท มูลค่าความเสียหายกว่า 1.3 ล้านบาท ระหว่างคนร้ายกำลังจะวิ่งหนีออกจากร้าน ปรากฏว่า น.ส.วิชุดา คนเจ็บได้เปิดประตูร้านร้องเรียกคนช่วย ทำให้คนร้ายใช้อาวุธปืนกระบอกดังกล่าว กระหน่ำยิงใส่ น.ส.วิชุดา จำนวน 2 นัด จนล้มลง ก่อนที่คนร้ายจะขับขี่รถ จยย.ฮอนด้าคลิก สีดำคาดขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับขี่หลบหนีไปทางซอยประชาอุทิศ 69

พล.ต.ต.สุเมธ กล่าวว่า คนร้ายได้ทองคำรูปพรรณไปทั้งสิ้นจำนวน 24 เส้น น้ำหนัก 60 บาท โดยก่อนที่คนร้ายจะลงมือ คาดว่า น่าจะมีการมาดูลาดเลาอย่างละเอียดแล้ว เนื่องจากช่วงเวลาลงมือ อาศัยช่วงจังหวะที่ตำรวจที่เฝ้าร้านทองดังกล่าว เพิ่งออกจากร้านได้ไม่ถึง 10 นาที ทั้งนี้ ภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดของทางร้าน จับภาพได้ พบว่า คนร้ายใช้มือซ้ายถืออาวุธปืน ก่อนกระหน่ำยิงข่มขู่ก่อนจำนวน 2 นัด และใช้มือขวาในการหยิบทองจากตู้โชว์ทอง ก่อนจะใช้ปืนยิงเข้าใส่คนเจ็บเปิดทางหนีอีกจำนวน 2 นัด รวมทั้งสิ้น 4 นัด ซึ่งได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในละแวกใกล้เคียงอย่างละเอียดแล้ว เพื่อตรวจสอบหารายละเอียดของคนร้ายให้ได้มากที่สุด โดยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เก็บร่อยรอยลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถาม จยย.รับจ้างรายหนึ่ง ซึ่งเห็นเหตุการณ์ ทราบว่า ก่อนคนร้ายจะก่อเหตุได้ขับขี่รถเฉี่ยวชนกับรถตนเอง บริเวณปากซอยประชาอุทิศ 69 ก่อนที่คนร้ายจะรีบขับขี่หนีอย่างรวดเร็ว ซึ่งตนเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ทั้งนี้ หลังจากที่ตนเองขับมาส่งลูกค้าที่บริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ และได้ขับรถกลับ ก็ยังพบว่าคนร้ายได้ใช้เส้นทางที่สวนกันตรงปากซอยประชาอุทิศ 69 เป็นเส้นทางในการขับขี่หลบหนีหลังก่อเหตุอีก