ก่อนอื่นขอลำดับปมปัญหาที่เป็นสาเหตุของชาติ มาแต่ละประเด็นเพื่อมองเห็นในภาพรวมก่อน
1. ใครบอกว่า อาชีพนักการเมืองปัจจุบันมีต้นทุน ต้องใช้เงินซื้อเสียง เลือกตั้งครั้งหนึ่งแต่ละคนใช้เงิน 50-60 ล้านบาท
คำตอบ มันก็ถูกครับ
2. ใครบอกว่า นายทุนของพรรค ใช้เงินซื้อตัวนักเลือกตั้ง จำนวนมากเป็นคอกๆ เพื่อให้ได้ส.ส.มากพอที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาลอีก เรียกว่า ส.ส.ขายตัวตั้งแต่วันสมัคร!!
คำตอบ มันก็ถูกครับ
3. ใครบอกว่า ตอนหาเสียง หัวหน้าพรรคใด สร้างภาพ โฆษณา เขียนหนังสือ ใช้เงินงบประมาณซื้อประชานิยม ชอบพูดหาเสียงในสิ่งที่พูดไปแล้วทำไม่ได้ จนสามารถโกหกให้
เม็ดคะแนนที่เราเรียกว่า รากหญ้า หลงเชื่อ ศรัทธา พร้อมใช้โครงสร้างเจ้าพ่อส.ส.ตัวจริง ไปบีบข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ผู้ว่า นายอำเภอ ปลัด สจ. สท. อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หัวคะแนนและผู้กว้างขวางระดับท้องถิ่น ถ้าเป็นราชการ ก็จะต้องมีตำแหน่งและความก้าวหน้าในอาชีพราชการเป็นเดิมพันให้ช่วยโกงเลือกตั้ง ส่วน สจ. สท. อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หัวคะแนนและผู้กว้างขวางระดับท้องถิ่น นั้นมีทางเลือกอย่างเดียวมีความตายเป็นเดิมพัน ถ้าไม่อยากตายหรืออยู่อย่างเป็นศัตรู ก็ต้องยอมออกมาเป็นกลไกทุกรูปแบบ เพื่อนำเงินของนักเลือกตั้งไปซื้อเสียงกับเม็ดคะแนนและหัวคะแนนระดับต่างๆ ก็รับเศษเงินหลักหมื่น หลักแสนไป...
คำตอบ มันก็ถูกครับ
4. ผู้มีสิทธิออกเสียงไปลงคะแนนเลือกตั้ง ในประเทศไทยปัจจุบัน พวกเม็ดคะแนนที่เรียกว่า รากหญ้า นั้นมีประมาณ 70 % ส่วนประชาชนที่เป็นผู้ตื่นรู้ ปัญญาชน คนชั้นกลาง มีประมาณ 30 % เท่านั้น พวกที่ต่อสู้เพื่อชาติก็ไม่สามารถห้ามนักเลือกตั้งที่มีต้นทุน ใช้เงินซื้อเสียงชนะการเลือกตั้ง มาเป็นรัฐบาลปกครองบ้านเมืองได้ สรุป เลือกตั้งกี่ครั้งพวกนักลากตั้งนี้มันก็เข้ามาได้อีกทุกครั้งไป...
คำตอบ มันก็ถูกครับ
5. ใครบอกว่า ทุกรัฐบาลจะบริหารชาติแบบ มอมเมาประชาชนพวกเม็ดคะแนน ด้วยทีวีทุกช่องของรัฐบาลมีแต่บันเทิง ละคร เกมส์โชว์ เรื่องการเมืองเรื่องส.ส.ทุจริต โกงชาติ ขายชาติ
ไม่มีใครกล้าทำสกรูปข่าวเสนอความจริงเลย!! สื่อหนังสือพิมพ์หัวสีต่างๆ ก็รับใช้ระบบทุน เขียนข่าวเล่นตามประเด็นที่นักการเมืองตั้งโจทย์ ไม่เคยบอกความจริงกับประชาชน เพราะกลัวไม่ได้เงินค่าโฆษณาของนักการเมือง รัฐบาลก็ออกข่าวพูดความจริงแค่ครึ่งเดียว จนรากหญ้าบอกว่า ตูไม่รู้เรื่องการเมือง ไม่กล้าพูดอะไรมาก กลัวคนมีอำนาจ ความรู้ก็น้อย ไม่มีอำนาจอะไรคุ้มหัว แถมยากจนและยังมีแต่หนี้สิน แค่จะทำมาหากินไปวันๆ ยังเอาตัวไม่รอด หาเช้ากินค่ำ ทำงานใช้แรงงานมาก็เหนื่อยแล้ว พอตกเย็นกินข้าว ดูทีวีน้ำเน่าเพื่อผ่อนคลาย แล้วดื่มเหล้านิดหน่อย จะได้ไม่ฟุ้งซ่านเรื่องเศรฐิกจข้าวของแพง แล้วก็เข้านอน
แถมพูดจาแบบน่ารักว่า บ้านเมืองเวลานั่งดูข่าวทีวีไม่เห็นมีอะไรเลย มีแต่พวกประท้วงที่ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย เพราะตัวเองไม่มีปัญญาที่จะเข้าถึงสื่อที่นำความจริง แถมยังบอกว่า รู้แล้วได้อะไร จริงๆรากหญ้าไม่รู้หรอกแต่พูดไปอย่างนั้นเอง พูดต่อว่า สู้เอาเวลาไปทำมาหากินดีกว่า แม้การต่อสู้ของนักการเมืองภาคประชาชนในกรุงเทพฯ จะถูกรัฐบาลใช้อำนาจปราบปราอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นสมัยใด รากหญ้าก็ยังถูกปิดหูปิดตาเหมือนเดิม แม้จะรู้บ้างเล็กน้อยภายหลัง รากหญ้าก็ไม่เข้าใจและสับสนเพราะ รัฐบาลได้แก้ข่าวและให้ข้อมูลไม่ตรงกับความจริงแล้ว มีแต่ความดีเข้าตัว
คำตอบ มันก็ถูกครับ
6. ใครบอกว่า ปัจจุบันการเมืองภาคประชาชนที่ออกมาขับไล่รัฐบาล ทุจริต ออกไปได้ แต่ก็ได้ นักการเมือง ทุจริตอีกกลุ่มเข้ามา เหมือนเตะหมูเข้าปากสุนัข อย่างนี้คนดีๆที่มีความรู้ ออกมาปกป้องผลประโยชน์ชาติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ จะสู้กันอีกกี่ครั้ง กี่รุ่น ประเทศไทยจึงจะเจริญ.
คำตอบ มันก็ถูกครับ
7. ใครบอกว่า แม้ทุกคนในประเทศไทย มีองค์ความรู้ทางการเมืองเท่ากันหมดทุกคน ก็ไม่สามารถทำให้ชาติเจริญได้ เพราะ เมื่อประกาศให้มีการเลือกตั้ง ที่มีวาทกรรมไพเราะว่า คืนอำนาจให้ประชาชนนั้น แต่ผู้สมัครลงรับเลือกตั้งไม่มีคนดีมาลงสมัครเลย คำถาม แล้วจะเลือกใคร.???
คำตอบ มันก็ถูกครับ
8. ใครบอกว่า สัจธรรมของมนุษย์ ที่มีเกรียรติ มีความรู้ มีอำนาจ ที่สร้างมาด้วยตนเองส่วนหนึ่ง แล้วได้เสพใกล้ชิดการบริหารเงินงบประมาณของชาติ การใช้เงินของชาติระดับ แสนล้าน,ล้านล้านบาท อยากได้อะไรก็ได้ มีอำนาจล้นฟ้า มีเงินมหาศาล เมื่ออายุมากขึ้น มีกิเลสหนาไม่รักชาติ ย่อมติดกับการเสพอำนาจและหลงตนเอง คิดว่า ในช่วงชีวิตบั้นปลายไม่ว่า จะทำถูกหรือทำผิดไม่ต้องไปสน เป็นใครๆก็ทำ เพียงแต่ให้กลับมามีอำนาจเหมือนเดิม ดั่งนักการเมืองทุจริตด้วยกันชอบพดูดว่า สมบัติผลัดกันชม ไม่เห็นหัวประชาชน.
คำตอบ มันก็ถูกครับ
มาถึงตรงนี้ว่า ปัญหาของประเทศชาติน่าจะจอทางตัน ก็จะเป็นหน้าที่ของประชาชนผู้รักชาติ ต้องช่วยกันแก้ไขปัญหา
บ้านเมืองร่วมกัน ขอให้ท่านลองอ่านคำตอบตอนที่สองครับ...