วันที่ 14 มี.ค. 2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า เข้าใจดีว่าตำรวจปฏิบัติตามหน้าที่ ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา ในขณะนี้อยากให้รับรู้ว่า (1.ประชาชนได้ถ่ายรูปท่านไว้แล้ว ขอให้ท่านตระหนักให้ดีก่อนทำการใดๆ ตัวอย่างก็มีแล้วเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551 ตำรวจรับคำสั่งด้วยวาจาจากนักการเมือง ใช้แก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุม ท้ายที่สุดตำรวจเป็นผู้รับเคราะห์แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น
(2.ได้ตรวจสอบแล้ว คำสั่งที่ท่านนำมาปฏิบัติไม่มีการลงนามเป็นคำสั่ง (3.บัดนี้พวกเราได้ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง เรื่องการออก พ.ร.บ.มั่นคงฯ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะเราชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ และ (4.พวกเราชุมนุมปกป้องอธิปไตยของชาติ ขณะนี้กัมพูชายึดครองที่ดินไทยอยู่ หากท่านมีหัวใจเป็นคนไทย ท่านต้องไม่รับคำสั่งทำร้ายประชาชนที่รักชาติ ท่านจะทำการใดขอให้คิดให้ดี ขอย้ำไม่มีใครสั่งเป็นลายลักษณ์อักษร ท่านกำลังเผชิญหน้ากับคดีความอย่างโดดเดี่ยว อาจเป็นความผิดอาญาในที่สุด อีกอย่างพี่น้องที่นี่ไม่ได้เป็นภัยต่อความมั่นคง และเป็นคนไทยทั้งสิ้น ไม่ได้เป็นชาวกัมพูชา
นายปานเทพกล่าวต่อว่า พี่น้องตำรวจรวมถึง ผบ.ตร. ตนได้ตรวจ พ.ร.บ.ความมั่นคงแล้ว เขาประกาศใช้บังคับเฉพาะถนนคู่ขนานสองข้าง คือ ข้างทำเนียบฯ กับข้างกระทรวงศึกษาธิการเท่านั้น และคำสังนี้ก็ไม่ได้ถูกกฎหมายเพราะอยู่ในระหว่างการดำเนินคดีความ ขอให้ท่านชั่งใจให้ดี ประชาชนยืนอยู่ในช่องกลางไม่ได้อยู่ในขอบเขตที่จะเข้าสลายได้
ขณะนี้มีพี่น้องประชาชนจำนวนมากทยอยเข้ามา หากท่านคิดสลายก็ไม่สามารถหยุดความคิดประชาชนที่จะเข้าร่วมชุมนุมได้ พี่น้องสื่อมวลชน และประชาชนที่รับฟัง ASTV อยู่ รวมถึงรัฐบาลด้วย วันที่ท่านมาขอถนนสองเลนด้านกระทรวงศึกษาธิการ ท่านมาขับไล่เรา เราก็ไม่ได้ยึดคืนแต่ประการใด แต่การที่ท่านฉวยโอกาสเปิดช่องจราจรโดยไม่ได้ตรวจสอบความปลอดภัย ถือเป็นอันตรายต่อผู้ชุมนุมที่รักชาติอยู่แล้ว สิ่งที่ท่านดำเนินการอยู่ในขณะนี้เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ ลุแก่อำนาจ และผิดกฏหมาย
“ขอย้ำว่า ผู้ชุมนุมที่นี้ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัย และเป็นสตรี มิได้เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ เรามาปกป้องอธิปไตยของชาติที่ทหารกัมพูชายึดครองอยู่ ขอจิตสำนึกความรักชาติของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในฐานะเป็นคนไทยด้วยกัน”
นายปานเทพบอกพี่น้องที่รับชม ASTV ว่า ขณะนี้เราถูกปิดล้อมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งด้านหลังเวที ข้างกระทรวงศึกษาธิการ หากพี่น้องประชาชนจะเข้ามายังเข้าไม่ได้ นอกเสียจากจะอยู่ด้านนอกพื้นที่ชุมนุม ซึ่งหมายความว่าตำรวจต้องกลายเป็นแซนด์วิช ตำรวจชั้นผู้น้อยท่านไม่สามารถออกไปได้หากมายืนขวางอยู่เช่นนี้ อีกอย่างบัดนี้มีผู้ชุมนุมอยู่บนสะพานแล้วโดยเราไม่ได้สั่งการใดๆ หากท่านอยู่เช่นนี้ เสบียงท่านก็จะไม่มี ห้องน้ำที่ท่านทุบก็จะไม่ได้ใช้ในที่สุด
