วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2554



โจรเมืองระยอง สวมหมวกปิดหน้า ถือระเบิดแสวงเครื่อง ปล้นธนาคารกสิกรไทย เชิดเงินสดนับล้านบาท ก่อนวางระเบิดขู่ไว้ดูต่างหน้าหนีลอยนวล เจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิดกองทัพเรือ ต้องยิงทำลายทิ้งกลางถนนพบเป็นแค่ถ่านไฟฉาย

เมื่อเวลา 13.00 น. ของวันนี้( 11 ก.ค.54) พ.ต.ท.ประเสริฐ เตชะมา พนักงานสอบสวน สภ.บ้านฉาง จ.ระยอง ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.บ้านฉาง ว่ามีสัญญานเตือนภัยดังมาจากธนาคารกสิกรไทย สาขาบ้านฉาง ริมถนนสุขุมวิท อ.บ้างฉาง จ.ระยอง จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจ ชุดสืบสวน สวภ.บ้านฉาง จำนวนนับ 10 นาย
ในที่เกิดเหตุ พบประชาชนวิ่งแตกตื่นออกมาจากธนาคาร พร้อมตะโกนดังลั่นว่ามีคนปล้นธนาคาร ก่อนเจ้า หน้าที่ตำรวจจะปิดล้อมบริเวณโดยรอบเพื่อสอบเหตุที่เกิดขึ้น และทราบต่อมาว่าคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 30-35 ปี สวมหมวกแก็ปสีเขียวปิดบังใบหน้า สวมแว่วตาดำ ขี่รถจักรยานยนต์ ยามาฮา คริสตัส สภาพรถรุ่นเก่า หมายเลขทะเบียน 544 ไม่ทราบหมวดอักษรและจังหวัด ขี่หลบหนีเข้าไปในซอยเทศบาล29 ข้างธนาคารกสิกรไทย สาขาบ้านฉาง พร้อมเงินสดนับล้านบาทหลบหนีไป ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่จะได้วิทยุสกัดจับคนร้ายแล้วแต่ก็ไร้วี่แวว
และจากการตรวจสอบภายในธนาคารฯ บริเวณหน้าเคาน์เตอร์รับฝาก-ถอนเงิน พบวัตถุระเบิดแสวงเครื่องผูกมัดติดกันจำนวน 3 อันและมีนาฬิกาดิจิตอลตั้งเวลาให้ระเบิดผูกติดอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าเคลียร์พื้นที่บริเวณโดยรอบและกันผู้คนออกห่าง พร้อมนำยางรถยนต์มาล้อมวัตถุระเบิดดังกล่าวไว้ และได้ประสานงานเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดจากกรมสรรพาวุธทหารเรือสัตหีบ เข้าทำการตรวจสอบเพื่อเก็บกู้วัตถุระเบิดดังกล่าว ด้วยการนำมาทำลายโดยใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงยิงทำลาย ร บริเวณกลางถนนหน้าธนาคารฯ ที่เกิดเหตุ และพบว่าเป็นเพียงถ่านไฟฉายที่พันไว้ด้วยสก็อตเทป เพื่อตบตาผ้คนให้ดูเหมือนระเบิดแสวงเครื่องเท่านั้น
และในเวลาต่อมา พล.ต.ต.นิวัฒน์ รัตนาธรรมวัตน์ รอง ผบช.ภาค 2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไตรศูล เนียมทรัพย์ รอง ผบก.จว.ระยอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการ ภาค 2 เข้าทำการตรวจสอบเก็บลายนิ้วมือแฝงคนร้ายที่ได้สัมผัสไว้ และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่จับภาพคนร้ายไว้ได้ทุกขั้นตอน ก่อนสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุก สภ.ในบริเวณพื้น ที่เกิดเหตุตั้งด่านสกัดตามท้องถนน พร้อมนำกำลังส่วนหนึ่งออกไล่ล่าคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้
นาง วิไรพร ภูษณะภัทระ อายุ 43 ปี แคชเชียร์ธนาคารกสิกรไทย สาขาบ้านฉาง ได้กล่าวทั้งที่ยังมีอาการตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า คนร้ายได้เข้ามาเหมือนลูกค้าทั่วไปตนคิดว่าจะเข้ามาฝากหรือเบิกเงินตามปกติ ก่อน ที่จะนำวัตถุคล้ายระเบิดแสวงเครื่องที่ห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกหูหิ้วออกมาวางที่หน้าเคาน์เตอร์ที่เบิก-จ่ายเงินที่ตนนั่งอยู่ พร้อมตะโกนให้นำเงินใส่ในถุงพลาสติกที่เตรียมมา มิเช่นนั้นจะกดรีโมทจากโทรศัพท์มือถือให้ตายกันทั้งหมด ด้วยความตกใจกลัว จึงได้นำเงินที่มีอยู่ใส่ถุงพลาสติกส่งให้คนร้าย แต่คนร้ายยังไม่พอใจได้เดินไปเก็บเงินตามเคาน์เตอร์ต่างๆ จนครบ 4 ช่อง รวมมูลค่าแล้วกว่า 1 ล้านบาท ก่อนที่จะวิ่งออกจากธนาคารขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป