18 ม.ค. ที่กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี กองบัญชาการตำรวจนครบาล (กก.ดส.บช.น.) เมื่อเวลา 22.30 น. พ.ต.อ.สุพัชร พึ่งพวง ผกก.ดส.บช.น.สั่งการให้ พ.ต.ท.ศยาม อินทร์สุวรรณโณ สว.กลุ่มงานสืบสวนตรวจตราฯ กก.ดส.บช.น.และ ร.ต.อ.กิตติเมศร์ โชติปิติเจริญรัฐ รอง สว.กก.ดส.บช.น.นำกำลังจับกุม นายประสาร หรือแอ๊ด ยิ้มใหญ่ อายุ 40 ปี อาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง อยู่บ้านเลขที่ 268 ซ.กรุงเทพ-นนทบุรี 37 แขวงและเขต บางซื่อ กทม. พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 18 เม็ด รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฟีโน่ สีชมพู-ดำ หมายเลขทะเบียน ฬรง 647 กทม.1 คัน อุปกรณ์เสพยาบ้า 2 อัน และโทรศัพท์มือถืออีก 2 เครื่อง โดยจับกุมได้ภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.ปากซอยกรุงเทพ-นนทบุรี 37 แขวงและเขต บางซื่อ
พ.ต.ท.ศยาม กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายประสาร มีพฤติการณ์เป็นเอเยนต์จำหน่ายยาบ้าให้วัยรุ่น นักเรียนนักศึกษาย่านประชาชื่น จึงให้สายลับทำการล่อซื้อยาบ้าจำนวน 200 เม็ด แต่ผู้ต้องหาอ้างว่ามีเพียง 18 เม็ดเท่านั้น จากนั้นผู้ต้องหานำยาบ้ามาส่งให้สายลับภายในปั๊มน้ำมันดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวจับกุม ก่อนนำตัวไปตรวจค้นห้องพักชื่อลดาพันธ์ แมนชั่น ห้อง 217 ย่านบางกรวย จ.นนทบุรี เมื่อตรวจสอบภายในห้องพักพบ น.ส.เอ น.ส.บี และ น.ส.ซี (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี อยู่ภายในห้องพัก จึงนำตัวมาสอบสวน
จากการสอบสวน น.ส.เอ ให้การว่า ตนทำงานอยู่ที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งย่านดังกล่าว โดยเมื่อวันที่ 17 ม.ค. ที่ผ่านมา นายประสาร ได้นำตนเองมาที่ห้องพัก ก่อนลงมือกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง แล้วให้ยาบ้าจำนวน 2 เม็ดเป็นค่าตอบแทน ส่วนเพื่อนอีกสองคนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพียงมาตามตนให้ไปทำงานเท่านั้น
ด้าน นายประสาร ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้จำหน่ายยาบ้าจริง โดยรับยาบ้ามาจากนายกล่อม ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ในราคาเม็ดละ 130 บาท ขายให้ลูกค้า 140 บาท ได้กำไรประมาณวันละ 500 บาท อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวันจับกุมในคดีจำหน่ายยาบ้ามาแล้ว ติดคุกเป็นเวลา 2 ปี เมื่อพ้นโทษออกมาก็มาขายยาบ้าต่อ กระทั่งถูกจับกุมดังกล่าว ทั้งนี้ในส่วนของ น.ส.เอ ได้พบกันที่ร้านคาราโอเกะ จึงชวนมาที่ห้องพักเพื่อร่วมหลับนอนโดยมีค่าตอบแทนเป็นยาบ้าจำนวน 2 เม็ดเป็นรางวัล
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย , ส่งเสริมผู้อื่นให้เสพยาเสพติด, พรากผู้เยาว์ อายุมากกว่า 15 ปี แต่ไม่ถึง 18 ปี ไปจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร,พาบุคคล อายุมากกว่า 15 ปี แต่ไม่ถึง 18 ปี ไปเพื่อการอนาจารแม้ผู้นั้นจะยินยอมและส่งเสริมให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด ตาม พรบ.คุ้มครองเด็ก ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.ท.ศยาม กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายประสาร มีพฤติการณ์เป็นเอเยนต์จำหน่ายยาบ้าให้วัยรุ่น นักเรียนนักศึกษาย่านประชาชื่น จึงให้สายลับทำการล่อซื้อยาบ้าจำนวน 200 เม็ด แต่ผู้ต้องหาอ้างว่ามีเพียง 18 เม็ดเท่านั้น จากนั้นผู้ต้องหานำยาบ้ามาส่งให้สายลับภายในปั๊มน้ำมันดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวจับกุม ก่อนนำตัวไปตรวจค้นห้องพักชื่อลดาพันธ์ แมนชั่น ห้อง 217 ย่านบางกรวย จ.นนทบุรี เมื่อตรวจสอบภายในห้องพักพบ น.ส.เอ น.ส.บี และ น.ส.ซี (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี อยู่ภายในห้องพัก จึงนำตัวมาสอบสวน
จากการสอบสวน น.ส.เอ ให้การว่า ตนทำงานอยู่ที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งย่านดังกล่าว โดยเมื่อวันที่ 17 ม.ค. ที่ผ่านมา นายประสาร ได้นำตนเองมาที่ห้องพัก ก่อนลงมือกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง แล้วให้ยาบ้าจำนวน 2 เม็ดเป็นค่าตอบแทน ส่วนเพื่อนอีกสองคนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพียงมาตามตนให้ไปทำงานเท่านั้น
ด้าน นายประสาร ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้จำหน่ายยาบ้าจริง โดยรับยาบ้ามาจากนายกล่อม ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ในราคาเม็ดละ 130 บาท ขายให้ลูกค้า 140 บาท ได้กำไรประมาณวันละ 500 บาท อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวันจับกุมในคดีจำหน่ายยาบ้ามาแล้ว ติดคุกเป็นเวลา 2 ปี เมื่อพ้นโทษออกมาก็มาขายยาบ้าต่อ กระทั่งถูกจับกุมดังกล่าว ทั้งนี้ในส่วนของ น.ส.เอ ได้พบกันที่ร้านคาราโอเกะ จึงชวนมาที่ห้องพักเพื่อร่วมหลับนอนโดยมีค่าตอบแทนเป็นยาบ้าจำนวน 2 เม็ดเป็นรางวัล
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย , ส่งเสริมผู้อื่นให้เสพยาเสพติด, พรากผู้เยาว์ อายุมากกว่า 15 ปี แต่ไม่ถึง 18 ปี ไปจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร,พาบุคคล อายุมากกว่า 15 ปี แต่ไม่ถึง 18 ปี ไปเพื่อการอนาจารแม้ผู้นั้นจะยินยอมและส่งเสริมให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด ตาม พรบ.คุ้มครองเด็ก ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป