วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2555

หนุ่มชาวเขา ขนยาบ้าลงจากดอย ซุกถุงชาสำเร็จรูปหวังตบตาโปลิศ แต่หนีไม่พ้นเจอ สส.ภ.1 รวบตัว ค้นเจอยาบ้า ยาไอซ์ เพียบ


     วันนี้( 20 ม.ค.) ที่ บช.ภ.1  พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รรท.ผบช.ภ1. แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติด นายปัญญาพร หรือ ปฐวี  เดชะราช อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42/243 ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี นายทอง  คำลือ อายุ 39 ปี ชาว อ.แม่สาย จ.เชียงใหม่  พร้อมของกลางยาเสพติดยาบ้า  16 มัด จำนวน 32,000 เม็ด ยาไอซ์  1,400 กรัม ซึ่งได้ซุกซ่อนไว้ในถุงชาสำเร็จรูป  อาวุธปืนพกสั้น 1 กระบอก และรถยนต์ จำนวน 3 คัน
พล.ต.ต.คำรณวิทย์  ได้กล่าวว่า “โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้โดยจากการขยายผลจับกุมผู้เสพ ผู้ค้ารายย่อย ผู้ค้ารายใหญ่ จนสามารถสืบทราบเบาะแสของผู้ต้องหา จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดล้อมจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าวได้ที่บริเวณริมถนนติวานนท์  หน้าธนาคาร ยูโอบี ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี  เมื่อวันที่ 19 มกราคม ที่ผ่านมา ขณะเตรียมต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อหลบหนี”
จากการสอบสวนนายทอง ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นชาวเขาเผ่าไทยลื้อ ได้นำยาเสพติดมาจากตะเข็บชายแดน ผ่านทางดอยแม่สลองจากนั้นได้นำยาเสพติดมาส่งเป็นทอดๆตามพื้นที่ภาคกลาง โดยจะนำยาเสพติดบรรจุใส่ถุงชาชงสำเร็จและซุกซ่อนภายในที่นอนเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งด่านตรวจค้น โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันมียาเสพติดประเภทที่ 1 เมตแอมเฟตามีน (ยาบ้าและยาไอซ์)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฏหมาย และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่มีใบอนุญาตพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรือสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต
 อีกหนึ่งราย พล.ต.ต.ทวิชชาติ พละศักดิ์ ผบก.สส.ภ.1 ได้แถลงผลการจับกุมตัว นายปิ่นแก้ว หรือ เบียร์ คงยืน อายุ22 ปี ชาวจังหวัดปทุมธานี นายสิทธิพงษ์ หรือยีนต์  ดรุนิกร อายุ 17 ปี ชาวจังหวัดยโสธร พร้อมของกลาง ยาบ้า  2,000 เม็ด โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริเวณหน้าธนาคารกรุงไทย  ม.8 ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว เมื่อวันที่ 19 มกราคม ที่ผ่านมา โดยจากการขยายผลการจับกุมจากผู้เสพในพื้นที่ จ.อยุธยา จนกระทั้งสามารถจับกุมผู้ต้องหารายดังกล่าวได้  จากการสืบสวนพบว่า กลุ่มผู้ต้องหาเป็นผู้ค้ารายใหญ่อีกด้วย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งของกล่าวหา ร่วมกันมียาเสพติดประเภทที่1ไว้ครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฏหมาย จากนั้นได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
โดย พล.ต.ต.คำรณวิทย์  ได้กล่าวว่าเพิ่มเติมว่า ”การระดมกวาดล้างยาเสพติดในพื้นที่ภาค 1 นั้นได้เป็นการดำเนินการตามนโยบายของทางรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ซึ่งในขณะนี้ยาเสพติดในพื้นที่เริ่มมีราคาสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลจาก การระดมกวาดล้างอย่างหนักของเจ้าหน้าที่เพื่อป้องกันการระบาดของยาเสพติด  แต่ตนก็ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจในชั้นปฏิบัติงานทุกนายว่า  ในปัจจุบันกลุ่มนักค้ายาเสพติด มีการพกอาวุธติดตัวมาเพื่อเป็นการป้องกันตัวเอง กันแทบทุกกลุ่ม ซึ่งอาวุธปืนที่พบในบางราย พบว่ามีความทันสมัยกว่าของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่พกติดตัวในตอนทำงานเสียอีก เพราะฉะนั้นจะต้องเพิ่มความรอบคอบ และระมัดระวัง ในการปฏิบัติหน้าที่ ให้เพิ่มมากขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อให้เกิดการสูญเสียที่จะเกิดขึ้นกับบุคลากรให้น้อยที่สุด ส่วนเรื่องการปราบปรามในส่วนของอาวุธปืนที่เข้ามาอย่างแพร่หลายนั้น ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ทางรัฐบาลได้วางนโบบายไว้อย่างเด่นชัดแล้ว ซึ่งทาง ภ.1 ก็ได้ทำการตรวจตราและจับกุมอยู่อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด”