ศาลแขวงพระนครเหนือ อ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการ ฝ่ายคดีศาลแขวง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสมบัติ บุญงามอนงค์ อายุ 43 ปี หรือ บก.ลายจุด แกนนำกลุ่ม 19 ก.ย. ต้านรัฐประหาร เป็นจำเลยในความผิดฐานฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ปี 2550 จากกรณีเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2553 จำเลยและผู้ชุมนุม ประมาณ 1,000 คน ได้ร่วมกันฝ่าฝืนชุมนุมบริเวณทางเท้า และพื้นผิวถนน พร้อมใช้โทรโข่ง กล่าวปราศรัยโจมตีรัฐบาล บริเวณใกล้ทางด่วนรามอินทรา - อาจณรงค์ ใกล้กับห้างอิมพีเรียล เวิลด์ ลาดพร้าว อันเป็นการกระทำขัดต่อพระราชกำหนดการบริหาราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และก่อให้เกิดความเดือดร้อน เนื่องจากกีดขวางทางจราจร โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง พิพากษาจำคุกเป็นเวลา 6 เดือน ปรับ 6,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญากำหนด 2 ปี ซึ่งภายหลังฟังคำพิพากษา นายสมบัติ ได้ชำระค่าปรับจำนวน 6,000 บาท และเตรียมยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน ตามกฎหมาย
วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2554
ศาลสั่งจำคุกบก.ลายจุด6เดือนปรับ6พัน
ศาลแขวงพระนครเหนือ อ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการ ฝ่ายคดีศาลแขวง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสมบัติ บุญงามอนงค์ อายุ 43 ปี หรือ บก.ลายจุด แกนนำกลุ่ม 19 ก.ย. ต้านรัฐประหาร เป็นจำเลยในความผิดฐานฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ปี 2550 จากกรณีเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2553 จำเลยและผู้ชุมนุม ประมาณ 1,000 คน ได้ร่วมกันฝ่าฝืนชุมนุมบริเวณทางเท้า และพื้นผิวถนน พร้อมใช้โทรโข่ง กล่าวปราศรัยโจมตีรัฐบาล บริเวณใกล้ทางด่วนรามอินทรา - อาจณรงค์ ใกล้กับห้างอิมพีเรียล เวิลด์ ลาดพร้าว อันเป็นการกระทำขัดต่อพระราชกำหนดการบริหาราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และก่อให้เกิดความเดือดร้อน เนื่องจากกีดขวางทางจราจร โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง พิพากษาจำคุกเป็นเวลา 6 เดือน ปรับ 6,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญากำหนด 2 ปี ซึ่งภายหลังฟังคำพิพากษา นายสมบัติ ได้ชำระค่าปรับจำนวน 6,000 บาท และเตรียมยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน ตามกฎหมาย