เสี่ยเจ้าของหมู่บ้านฝากเงิน 2 ล้านบาท นาน 30 ปี ปรากฏว่าถอนไม่ได้ ธนาคารอ้างข้อมูลหาย แจ้งความไว้ปี 44 เรื่องไม่คืบหน้า
กองบังคับการปราบปราม (16 ก.ย.) อดีตเจ้าของหมู่บ้านจัดสรร นายโชติชัย สิริกาญนุกูล อายุ 70 ปี ร้องเรียนกองปราบกรณีฝากเงิน 2 ล้านไว้ 30 ปีแต่ถอนออกไม่ได้ โดย นายโชติชัย เิปิดเผยว่า ตนเองได้นำเงินจำนวน 2 ล้านบาทฝากไว้กับธนาคารแห่งหนึ่งตั้งแต่ปี 2527 และในปี 2544 ตนได้ทำเรื่องเบิกถอนเงินจำนวนดังกล่าว ปรากฏว่าทางธนาคารไม่สามารถดำิเนินการให้ได้ โดยบอกว่าข้อมูลหาย ต่อมาตนได้เข้าไปสอบถามยังฝ่ายกฏหมายของธนาคารแห่งนี้ แต่ฝ่ายกฏหมายได้พูดจาไม่ดีและยังท้าให้ไปฟ้องร้องอีกด้วย ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวตนได้แจ้งความไว้ที่ สน.นางเลิ้ง ไว้เมื่อปี 2544 แต่เรื่องกลับไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
นายโชติชัย เปิดเผยอีกว่า ตนได้เปิดสมุดบัญชีเงินฝากไว้หลายสิบเล่มมีหลายธนาคารด้วยกัน ต่อมาเมื่อมีการย้ายสำนักงานเกิดขึ้นกระทั่งผ่านไปสิบกว่าปีตนถึงมานึกได้ ว่าได้เปิดบัญชีธนาคารไว้หลายแห่ง แต่หาสมุดบัญชีไม่เจอจึงให้ลูก ๆ มาช่วยกันค้นดู ปรากฏว่าเจอและพบว่ามีหลายบัญชีที่ยังไ่ม่ได้ถอนเงิน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเงินที่ฝากไว้เกิน 10 ปีต่อจากนั้นตนได้นำสมุดบัญชีจากธนาคารต่าง ๆ ไปเบิกเงินซึ่งทุกธนาคารสามารถเบิกได้พร้อมกับคำนวณดอกเบี้ยให้อีกด้วย
กระทั่งมาถึงธนาคารแห่งนี้ที่มีปัญหาที่ไม่สามารถเบิกถอนได้ ซึ่งนายโชติชัยบอกว่า ฝากเงินไว้ 2 ล้านถ้าคำนวณเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยประเภทเงินฝากประจำ 12 เดือน ซึ่งขณะนั้นดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารสูงมาก เงินฝากประจำส่วนใหญ่จะได้ดอกเบี้ยประมาณ 15-20% คำนวณคร่าว ๆ เงิน 2 ล้านที่ฝากไว้กว่า 27 ปี (ถึงปัจจุบัน) น่าจะได้ดอกเบี้ยเกือบ 10 ล้านบาท เมื่อรวมกันน่าจะไม่ต่ำกว่า 12 ล้านบาท
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอสำเนาสมุดบัญชีที่มีปัญหารวมทั้งเอกสารที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว
กองบังคับการปราบปราม (16 ก.ย.) อดีตเจ้าของหมู่บ้านจัดสรร นายโชติชัย สิริกาญนุกูล อายุ 70 ปี ร้องเรียนกองปราบกรณีฝากเงิน 2 ล้านไว้ 30 ปีแต่ถอนออกไม่ได้ โดย นายโชติชัย เิปิดเผยว่า ตนเองได้นำเงินจำนวน 2 ล้านบาทฝากไว้กับธนาคารแห่งหนึ่งตั้งแต่ปี 2527 และในปี 2544 ตนได้ทำเรื่องเบิกถอนเงินจำนวนดังกล่าว ปรากฏว่าทางธนาคารไม่สามารถดำิเนินการให้ได้ โดยบอกว่าข้อมูลหาย ต่อมาตนได้เข้าไปสอบถามยังฝ่ายกฏหมายของธนาคารแห่งนี้ แต่ฝ่ายกฏหมายได้พูดจาไม่ดีและยังท้าให้ไปฟ้องร้องอีกด้วย ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวตนได้แจ้งความไว้ที่ สน.นางเลิ้ง ไว้เมื่อปี 2544 แต่เรื่องกลับไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
นายโชติชัย เปิดเผยอีกว่า ตนได้เปิดสมุดบัญชีเงินฝากไว้หลายสิบเล่มมีหลายธนาคารด้วยกัน ต่อมาเมื่อมีการย้ายสำนักงานเกิดขึ้นกระทั่งผ่านไปสิบกว่าปีตนถึงมานึกได้ ว่าได้เปิดบัญชีธนาคารไว้หลายแห่ง แต่หาสมุดบัญชีไม่เจอจึงให้ลูก ๆ มาช่วยกันค้นดู ปรากฏว่าเจอและพบว่ามีหลายบัญชีที่ยังไ่ม่ได้ถอนเงิน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเงินที่ฝากไว้เกิน 10 ปีต่อจากนั้นตนได้นำสมุดบัญชีจากธนาคารต่าง ๆ ไปเบิกเงินซึ่งทุกธนาคารสามารถเบิกได้พร้อมกับคำนวณดอกเบี้ยให้อีกด้วย
กระทั่งมาถึงธนาคารแห่งนี้ที่มีปัญหาที่ไม่สามารถเบิกถอนได้ ซึ่งนายโชติชัยบอกว่า ฝากเงินไว้ 2 ล้านถ้าคำนวณเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยประเภทเงินฝากประจำ 12 เดือน ซึ่งขณะนั้นดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารสูงมาก เงินฝากประจำส่วนใหญ่จะได้ดอกเบี้ยประมาณ 15-20% คำนวณคร่าว ๆ เงิน 2 ล้านที่ฝากไว้กว่า 27 ปี (ถึงปัจจุบัน) น่าจะได้ดอกเบี้ยเกือบ 10 ล้านบาท เมื่อรวมกันน่าจะไม่ต่ำกว่า 12 ล้านบาท
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอสำเนาสมุดบัญชีที่มีปัญหารวมทั้งเอกสารที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว