จากกรณีที่มีคนร้ายเป็นชายไม่ทราบอายุ ผิวคล้ำ สูงประมาณ 165 เซนติเมตร ใส่หมวกแก๊ปสีดำและคาดผ้าปิดจมูกสีขาวปิดบังใบหน้า การแต่งกายสวมเสื้อคลุมสีครีม นุ่งกางเกงยีน ใส่รองเท้าผ้าใบสีขาว มีกระเป๋าสะพายสีดำคาดสะพายแล่งอีก 1 ใบ ใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์บุกเดี่ยวชิงทรัพย์ห้างทองเพชรทองใบเยาวราช ตั้งอยู่บนชั้นที่ 2 ของห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาเอกชัย-บางบอน ได้ทรัพย์สินเป็นสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนัก 2 บาท รวม 10 เส้น มูลค่ากว่า 507,000 บาท ขับขี่ รถ จยย.หลบหนีไปอีกทั้งยังใช้ปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ รปภ.เพื่อสกัดไม่ให้ติดตามจนกระจกห้างแตกกระจายตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า วันนี้(12 ส.ค.54) พล.ต.ต.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบก.น.9 เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนของ สน.บางขุนเทียน และ กก.สส.บก.น.9 ช่วยกันตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในห้างสรรพสินค้าที่เกิดเหตุย้อนหลังไปอีกหลายวัน โดยใช้เวลาเฝ้าจับตาดูกันทั้งคืนปรากฏว่า พบภาพชายต้องสงสัยคนหนึ่งซึ่งมีตำหนิรูปพรรณคล้ายกันกับคนร้ายมาเดินป้วนเปี้ยนอยู่ในบริเวณห้างเมื่อวันที่ 10 ส.ค.54 คล้ายกับการเดินทางมาดูลาดราวก่อนลงมือ 1 วัน
อย่างไรก็ตามขณะนี้พนักงานสอบสวนได้นำภาพคนร้ายที่ใส่หมวกแก๊ปคาดผ้าปิดจมูกอำพรางใบหน้าขณะก่อเหตุไปขออำนาจศาลอาญาธนบุรี ออกหมายจับตามตำหนิรูปพรรณดังกล่าวเอาไว้แล้ว สำหรับรถ จยย.ฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 สีเทา ที่พยานเห็นคนร้ายใช้ขับหลบหนีตรวจสอบข้อมูลพบว่า มีรถที่เข้าข่ายอยู่กว่า 600 คัน และยังไม่ทราบว่าคนร้ายติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอมหรือไม่ต้องค้นหาภาพจากกล้องวงจรปิดในละแวกใกล้เคียงเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมต่อไป