วันจันทร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2557

กกต.วิเคราะห์

6 ม.ค.57 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง เปิดเผยว่า กกต.ประชุมพิจารณาคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ จากทุกพรรคการเมือง ปรากฏว่ามีผู้สมัครขาดคุณสมบัติจำนวน 87 ราย เนื่องจากไม่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง หรือเป็นสมาชิกพรรคการเมืองไม่ครบ 30 วัน ทำให้ขาดคุณสมบัติตามมาตรา 72 ,101 และคุณสมบัติต้องห้ามตามมาตรา 102 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.การการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ.2550 อย่างไรก็ตามผู้ที่ถูกตัดสิทธิ์สามารถไปยื่นร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง เพื่อต้องการมีสิทธิเลือกตั้งต่อไปได้
สำหรับ 87 รายชื่อที่กกต.พิจารณานั้น แยกเป็นในส่วนที่มีปัญหาเป็นสมาชิกพรรคการเมืองไม่ถึง 30 วัน และในวันสมัครไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมือง รวม 25 ราย ขณะที่เหลือส่วนใหญ่เป็นกรณีไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และเป็นกรณีอื่นที่กฎหมายกำหนดเป็นลักษณะต้องห้ามในการสมัคร เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกโดยพ้นโทษมายังไม่ถึง 5 ปีในวันเลือกตั้ง เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
โดยใน 87 รายชื่อบุคคลที่อยู่ในข่ายที่ กกต.พิจารณาตัดสิทธินั้น พบว่าที่เป็นบุคคลที่สังคมรู้จักอาทิ นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 75 นายจรัล ดิษฐาอภิชัย ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับ 93 นายถาวร ตรีรัตนณรงค์ ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 94 พล.ต.ต.วิรุฬ ฟื้นแสน ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับ 118 จาก พรรคเพื่อไทย
อย่างไรตาม กกต.จะต้องดำเนินคดีอาญากับบุคคลที่ขาดคุณสมบัติด้วย ฐานเป็นผู้ที่รู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิสมัครแต่ยังลงสมัครซึ่งมีโทษ ตามพ.ร.บ.เลือกตั้งมาตรา 139 จำคุก 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2หมื่น -2 แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ และศาลอาจสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี และหัวหน้าพรรคก็ต้องถูกดำเนินคดีในฐานะเป็นผู้สนับสนุนด้วย เพราะเป็นผู้ที่เซ็นยินยอมและส่งบุคคลดังกล่าวเป็นผู้สมัคร