วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2558
วันเสาร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2558
aec 2558 คนหาเช้ากินค่ำถูกคนต่างด้าวแย่งอาชีพค้าขาย
แรงงานไทยก็มีปัญหาไม่มีงานทำ จังหวัดท่องเที่ยว จังหวัดใหญ่ๆ ร้านอาหาร ผับ บาร์ โรงแรม หอพัก วันนี้เขาจ้างคนต่างด้าวกัน ส่วนอาชีพรถเข็น ขายน้ำปั่น ขายผลไม้ ขายกล้วยทอดกล้วยปิ้ง ไข่ปิ้ง ลูกชิ้นทอด ขายก๋ยวเตี๋ยว ขายส้มตำ ขายไก่ทอดไก่ย่าง คนต่างด้าวเป็นพ่อค้าแม่ค้ากันเต็มทุกพื้นที่ เราจะรู้ก็ต่อเมื่อเราพูดว่า ขายอย่างไร ราคาเท่าไหร่ ....อีกไม่นาน จังหวัดขนาดกลาง จังหวัดขนาดเล็ก ก็จะมีพ่อค้าแม่ค้าคนต่างด้าวเต็มไปหมด....ด้วยเหตุผลง่ายๆ เพราะ ค่าเงินบาทของไทยมีอัตราแลกเปลี่ยนสูงกว่าเงินประเทศเพื่อนบ้านที่ยากจนกว่าเรา การเปิดกลไกภูมิภาคอาเซี่ยนครั้งนี้คือ เปิดสนามสงคราม นำข้าสึกเข้าบ้านเข้าประเทศ มาค้าขายแข่งขันกับคนจนในท้องถิ่นแท้ๆ..
ข่าวคนเมืองกรุง...
ข่าวคนเมืองกรุง...
..........โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งใหม่ 4 แห่ง ของ กทม.
ได้แก่ สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณถนนราชวงศ์-ถนนท่าดินแดง, บริเวณถนนลาดหญ้า-ถนนมหาพฤฒาราม, บริเวณถนนจันทน์-ถนนเจริญนคร และบริเวณแยกเกียกกาย-วัดฉัตรแก้ว
..........ค่าก่อสร้าง 4,500 ล้านบาท และเวนคืน 6,000 ล้านบาท เริ่มดำเนินการในปี 2559
คำถาม รู้แล้วได้อะไร...
คำตอบ 1. ถ้าท่านอยู่ในที่จะต้องถูกเวรคืน จะได้มีเวลาตั้งหลักเพื่อหาข้อมูล...มาปรึกษาคนหัวอกเดียวกันเพื่อตั้งทีมกฎหมาย พอถูกเวรคืนที่ดิน จะได้รับความเป็นธรรมและได้เงินชดเชยเหมาะสมกับราคาที่ดิน ณ วันนั้น
2. จะได้มีเวลาไปหาที่ดินผืนใหม่ เพื่อประกอบการ หรือ เป็นที่อยู่อาศัย
3. ถ้าท่านใดรู้ข้อมูลภายใน ก็ใช้เงินไปกว้านซื้อที่มา เวลาเวรคืนก็จะได้กำไร
4. ตัวอย่างก็มี โครงการหมื่นล้านการบำบัดน้ำเสียที่ครองด่าน นักการเมืองในรัฐบาล ใช้เงินไปดักซื้อที่ตรงบริเวณจะมีการเวรคืน ผล รวยกันเละ ต่อมามีการร้องเรียนหาตัวคนผิด สมัยนั้นตำรวจก็ทำคดีทอนตัง ปล่อยให้คดีหมออายุความ 555.
5. สักวันหนึ่งในเร็วๆนี้ คนต่างจังหวัดก็จะได้พบเรื่อง การเวรคืนที่ดิน จากโครงการรถไฟรางคู่ หรือ รถไฟฟ้าสายด่วน จะได้มีการเตรียมพร้อมและรับสถานการณ์ได้
สรุป...
บทเรียนที่ผ่านมา เวลามีการเวรคืนที่ดินของทางราชการ ชาวบ้านบางรายก็ขาดทุนและเดือดร้อน บางรายก็ได้กำไรเล็กน้อย เพราะอะไร ทุกคนรู้ดี นักการเมืองและนายทุน ชอบทำมาค้าขายกับเรื่องแบบนี้
..........โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งใหม่ 4 แห่ง ของ กทม.
ได้แก่ สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณถนนราชวงศ์-ถนนท่าดินแดง, บริเวณถนนลาดหญ้า-ถนนมหาพฤฒาราม, บริเวณถนนจันทน์-ถนนเจริญนคร และบริเวณแยกเกียกกาย-วัดฉัตรแก้ว
..........ค่าก่อสร้าง 4,500 ล้านบาท และเวนคืน 6,000 ล้านบาท เริ่มดำเนินการในปี 2559
คำถาม รู้แล้วได้อะไร...
คำตอบ 1. ถ้าท่านอยู่ในที่จะต้องถูกเวรคืน จะได้มีเวลาตั้งหลักเพื่อหาข้อมูล...มาปรึกษาคนหัวอกเดียวกันเพื่อตั้งทีมกฎหมาย พอถูกเวรคืนที่ดิน จะได้รับความเป็นธรรมและได้เงินชดเชยเหมาะสมกับราคาที่ดิน ณ วันนั้น
2. จะได้มีเวลาไปหาที่ดินผืนใหม่ เพื่อประกอบการ หรือ เป็นที่อยู่อาศัย
3. ถ้าท่านใดรู้ข้อมูลภายใน ก็ใช้เงินไปกว้านซื้อที่มา เวลาเวรคืนก็จะได้กำไร
4. ตัวอย่างก็มี โครงการหมื่นล้านการบำบัดน้ำเสียที่ครองด่าน นักการเมืองในรัฐบาล ใช้เงินไปดักซื้อที่ตรงบริเวณจะมีการเวรคืน ผล รวยกันเละ ต่อมามีการร้องเรียนหาตัวคนผิด สมัยนั้นตำรวจก็ทำคดีทอนตัง ปล่อยให้คดีหมออายุความ 555.
5. สักวันหนึ่งในเร็วๆนี้ คนต่างจังหวัดก็จะได้พบเรื่อง การเวรคืนที่ดิน จากโครงการรถไฟรางคู่ หรือ รถไฟฟ้าสายด่วน จะได้มีการเตรียมพร้อมและรับสถานการณ์ได้
สรุป...
บทเรียนที่ผ่านมา เวลามีการเวรคืนที่ดินของทางราชการ ชาวบ้านบางรายก็ขาดทุนและเดือดร้อน บางรายก็ได้กำไรเล็กน้อย เพราะอะไร ทุกคนรู้ดี นักการเมืองและนายทุน ชอบทำมาค้าขายกับเรื่องแบบนี้
วันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2558
มารู้จักการใช้กฎหมายเชิงนิติศาสตร์กับ "อาชีพตำรวจกันดีกว่า"
หมายเหตุ ยกเว้นตำรวจที่เป็นข้าราชการที่ดี พวกคุณจะอยู่ในใจของประชาชนตลอดไป
ตัวอย่างของจริง.
"คดีขนวนการฉ้อโกงของสถาบันการศึกษาเป็นเงินจำนวนนับพันล้าน"
ตำรวจได้ออกสื่อว่า เรื่องการซื้อขายรถยนตร์จากผู้เกี่ยวข้องในขบวนการ ให้รีบมามอบตัว และนำหลักฐานการซื้อขายมาแสดง จะได้คืนทรัพย์นั้นไป แต่ถ้าตำรวจสืบหาเองจะเป็นหนังคนละเรื่อง จะถูกดำเนินคดี โดยยกตัวอย่าง การคืนรถให้ดาราคนหนึ่งที่ซื้อรถมาจากผู้เกี่ยวข้องกับขบวนการฉ้อโกงทรัพย์
หมายเหตุ ยกเว้นตำรวจที่เป็นข้าราชการที่ดี พวกคุณจะอยู่ในใจของประชาชนตลอดไป
ตัวอย่างของจริง.
"คดีขนวนการฉ้อโกงของสถาบันการศึกษาเป็นเงินจำนวนนับพันล้าน"
ตำรวจได้ออกสื่อว่า เรื่องการซื้อขายรถยนตร์จากผู้เกี่ยวข้องในขบวนการ ให้รีบมามอบตัว และนำหลักฐานการซื้อขายมาแสดง จะได้คืนทรัพย์นั้นไป แต่ถ้าตำรวจสืบหาเองจะเป็นหนังคนละเรื่อง จะถูกดำเนินคดี โดยยกตัวอย่าง การคืนรถให้ดาราคนหนึ่งที่ซื้อรถมาจากผู้เกี่ยวข้องกับขบวนการฉ้อโกงทรัพย์
วิเคราะห์คดี. มุมของตำรวจ
1. กรณีรถยนต์ของดารา ร้อยเวรที่ทำหน้าที่เป็นพนักงานสอบสวนและทีมสอบสวนได้สรุปสำนวนว่า ผู้ที่ซื้อรถยนต์ ถ้าซื้อมาบริสุทธิ์ ก็ให้คืนรถไป แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการฉ้อโกง จะมีเงินเองหรือได้เงินมาจากการฉ้อโกง แล้วนำเงินไปทำธุรกรรมซื้อขายรถ ตรงนี้ตำรวจได้พิสูจน์หรือยังว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการฉ้อโกงทรัพย์ เอาเงินมาจากไหน
2. จากข้อ 1. ถ้าเป็นเงินตนเองหามา ก็เป็นการการค้ารถยนต์ที่ชอบด้วยกฎหมาย
3. จากข้อ 1. ถ้าเป็นเงินที่มาจากการฉ้อโกงทรัพย์
ผล ผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการฉ้อโกงทรัพย์ จะเข้าข่ายความผิด 7 มูลฐาน กฎหมาย พรบ.ฟอกเงิน จะต้องถูกยึดทรัพย์ ส่วนธุรกรรมการซื้อขายรถยนต์ที่ได้แหล่งเงินมาจากการฉ้อโกงนั้น ผู้ที่มาซื้อรถยนต์ ก็จะต้องถูกดำเนินคดีข้อหา รับของโจร
4. ตำรวจได้ออกสื่อว่า เรื่องการซื้อขายรถยนตร์จากผู้เกี่ยวข้องในขบวนการ ให้รีบมามอบตัว และนำหลักฐานการซื้อขายมาแสดง จะได้คืนทรัพย์นั้นไป แต่ถ้าตำรวจสืบหาเองจะเป็นหนังคนละเรื่อง จะถูกดำเนินคดี
5. จากข้อ 4. ตำรวจออกสื่อลักษณะใช้จิตวิทยา ใช้คำพูดทั้งขู่ทั้งปลอบ แต่ความจริง ตำรวจยังไม่ทำงานสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำผิดเลย แต่จะรอพวกขวัญอ่อน เดินเข้ามามอบตัวเอง
วิเคราะห์คดี. มุมของนักกฎหมาย
1. กรณีนี้ หากมีผู้ซื้อรถยนต์รายต่อไป เข้ามอบตัว แล้วนำหลักฐานการซื้อขาย และ พิสูจน์ว่า ได้นำเงินที่บริสุทธิ์มาซื้อ
2. ถ้าตำรวจบอกว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการฉ้อโกงทรัพย์ นั้น ได้เงินมาจากการฉ้อโกง ฉะนั้นผู้ที่มาซื้อรถยนต์ไป ก็จะมีความผิดฐานรับของโจร
แต่ถ้าตำรวจบอกว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการฉ้อโกงทรัพย์ นั้น ได้ใช้เงินบริสุทธิ์ที่ไม่เกี่ยวกับเงินฉ้อโกงทรัพย์ มาลงทุนค้าขายรถ ฉะนั้น ผู้ที่มาซื้อรถยนต์ไปโดยชอบ ก็ไม่มีความผิด
สรุป...
แล้วทำไมตำรวจไม่ออกสื่อแถลงการณ์ว่า
ตอนนี้ได้สืบสวนสอบสวน ผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการฉ้อโกงทรัพย์
ผล สรุปว่าเงินของผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการฉ้อโกงทรัพย์ นำมาลงทุนค้าขายรถยนต์นั้นเป็นเงินที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงหรือไม่เกี่ยว ข้อง
ข้อสังเกต
1. ทำไมตำรวจไม่พิสูจน์ที่มาของเงินก่อน ที่จะมาออกสื่อลักษณะขู่พวกขวัญอ่อน
2. ไม่ว่าใครจะผิดจะถูก ตำรวจไม่มีอำนาจตัดสินคดี มีอำนาจเพียงส่งฟ้องคดีต่ออัยการเท่านั้น
3. เป็นช่องว่างในการทำมาหากินของตำรวจที่ต้องการใช้อำนาจมาหาเงินได้
4. คดิพจน์ของวงการตำรวจ เมื่อเกิดเรื่อง ขึ้นโรงพัก ใครไม่มีเงินก็ลำบาก ตรงนี้ตำรวจคนไหนก็ตอบได้ว่า จริงหรือไม่!
5. คติพจน์ของวงการนักกฎหมาย มี นิติกร ทนายความ ตำรวจ อัยการ ผู้พิพากษา
ความว่า "ตำรวจที่ดีต้องไม่กลัวตำรวจชั่ว คุณต้องออกมายืนข้างประชาชน"
1. กรณีรถยนต์ของดารา ร้อยเวรที่ทำหน้าที่เป็นพนักงานสอบสวนและทีมสอบสวนได้สรุปสำนวนว่า ผู้ที่ซื้อรถยนต์ ถ้าซื้อมาบริสุทธิ์ ก็ให้คืนรถไป แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการฉ้อโกง จะมีเงินเองหรือได้เงินมาจากการฉ้อโกง แล้วนำเงินไปทำธุรกรรมซื้อขายรถ ตรงนี้ตำรวจได้พิสูจน์หรือยังว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการฉ้อโกงทรัพย์ เอาเงินมาจากไหน
2. จากข้อ 1. ถ้าเป็นเงินตนเองหามา ก็เป็นการการค้ารถยนต์ที่ชอบด้วยกฎหมาย
3. จากข้อ 1. ถ้าเป็นเงินที่มาจากการฉ้อโกงทรัพย์
ผล ผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการฉ้อโกงทรัพย์ จะเข้าข่ายความผิด 7 มูลฐาน กฎหมาย พรบ.ฟอกเงิน จะต้องถูกยึดทรัพย์ ส่วนธุรกรรมการซื้อขายรถยนต์ที่ได้แหล่งเงินมาจากการฉ้อโกงนั้น ผู้ที่มาซื้อรถยนต์ ก็จะต้องถูกดำเนินคดีข้อหา รับของโจร
4. ตำรวจได้ออกสื่อว่า เรื่องการซื้อขายรถยนตร์จากผู้เกี่ยวข้องในขบวนการ ให้รีบมามอบตัว และนำหลักฐานการซื้อขายมาแสดง จะได้คืนทรัพย์นั้นไป แต่ถ้าตำรวจสืบหาเองจะเป็นหนังคนละเรื่อง จะถูกดำเนินคดี
5. จากข้อ 4. ตำรวจออกสื่อลักษณะใช้จิตวิทยา ใช้คำพูดทั้งขู่ทั้งปลอบ แต่ความจริง ตำรวจยังไม่ทำงานสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำผิดเลย แต่จะรอพวกขวัญอ่อน เดินเข้ามามอบตัวเอง
วิเคราะห์คดี. มุมของนักกฎหมาย
1. กรณีนี้ หากมีผู้ซื้อรถยนต์รายต่อไป เข้ามอบตัว แล้วนำหลักฐานการซื้อขาย และ พิสูจน์ว่า ได้นำเงินที่บริสุทธิ์มาซื้อ
2. ถ้าตำรวจบอกว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการฉ้อโกงทรัพย์ นั้น ได้เงินมาจากการฉ้อโกง ฉะนั้นผู้ที่มาซื้อรถยนต์ไป ก็จะมีความผิดฐานรับของโจร
แต่ถ้าตำรวจบอกว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการฉ้อโกงทรัพย์ นั้น ได้ใช้เงินบริสุทธิ์ที่ไม่เกี่ยวกับเงินฉ้อโกงทรัพย์ มาลงทุนค้าขายรถ ฉะนั้น ผู้ที่มาซื้อรถยนต์ไปโดยชอบ ก็ไม่มีความผิด
สรุป...
แล้วทำไมตำรวจไม่ออกสื่อแถลงการณ์ว่า
ตอนนี้ได้สืบสวนสอบสวน ผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการฉ้อโกงทรัพย์
ผล สรุปว่าเงินของผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการฉ้อโกงทรัพย์ นำมาลงทุนค้าขายรถยนต์นั้นเป็นเงินที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงหรือไม่เกี่ยว ข้อง
ข้อสังเกต
1. ทำไมตำรวจไม่พิสูจน์ที่มาของเงินก่อน ที่จะมาออกสื่อลักษณะขู่พวกขวัญอ่อน
2. ไม่ว่าใครจะผิดจะถูก ตำรวจไม่มีอำนาจตัดสินคดี มีอำนาจเพียงส่งฟ้องคดีต่ออัยการเท่านั้น
3. เป็นช่องว่างในการทำมาหากินของตำรวจที่ต้องการใช้อำนาจมาหาเงินได้
4. คดิพจน์ของวงการตำรวจ เมื่อเกิดเรื่อง ขึ้นโรงพัก ใครไม่มีเงินก็ลำบาก ตรงนี้ตำรวจคนไหนก็ตอบได้ว่า จริงหรือไม่!
5. คติพจน์ของวงการนักกฎหมาย มี นิติกร ทนายความ ตำรวจ อัยการ ผู้พิพากษา
ความว่า "ตำรวจที่ดีต้องไม่กลัวตำรวจชั่ว คุณต้องออกมายืนข้างประชาชน"
วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2557
วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2557
ชาวสวนยางภาคใต้เดือดร้อน
บทความ ปัญหาราคายางตกต่ำ
ปัญหาราคายางตกต่ำจากเดิมเคยขายยางแผ่นได้ ก.ก.ละ 100 บาท ตอนนี้ยางแผ่น ก.ก.ละ 25-40 บาท
ชาวสวนยางภาคใต้ได้รับความเดือดร้อนมาก โดยเฉพาะชาวสวนยางรายย่อย
จึงเป็นที่มาของการเข้ามาช่วยเหลือชาวสวนยางภาพใต้ในชื่อ เงินช่วยเหลือชาวสวนยาง
โดยรัฐบาลทหารจะให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องลงไปหาข้อมูลผู้เดือดร้อน เบื้องต้นจะให้เงินแก่ชาวสวนยาง
เป็นเงินจำนวน 1000 บาทต่อไร่ ต่อผู้ปลูกยางไม่เกิน 20-25 ไร่
ด้านชาวสวนยางภาคใต้กล่าวว่า ได้เงินช่วยเหลือ 1000 ต่อไร่นั้นน้อยกว่ารัฐบาลก่อนที่ให้เงินช่วยเหลือถึง 2200 บาทต่อไร่ ตอนนี้จึงไม่สามารถสรุปได้ว่า จะช่วยเหลือเท่าไหร่
เมื่อนายบกทหารไปเยือนต่างประเทศ มีจีน เยรมัน ได้กล่าวว่า เราจะได้ไปพูดเรื่อง การค้าขายยางพารา ส่วนการตกลงซื้อขายกันอย่างไร เมื่อไหร่ นั้นไม่มีข้อมูลว่า การเจราว่าอย่างไร แต่ถ้านายกทหารบินกลับมาต้องให้ข่าวว่า ผมทำดีที่สุดแล้ว ไปต่างประเทศมาได้อะไรเยอะแยอะ พวกคุณอย่าพูกมาก
ทางด้านนักวิชาการที่ได้รับเชิญเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรฐกิจ ปัญหาราคายางตกต่ำ กล่าวว่า ผู้เดือดร้อนเป็นรายย่อย ส่วนรายใหญ่ไม่เดือดร้อน การช่วนเหลือชาวสวนยางก็เหมือนการช่วยเหลือชาวนา และที่สำคัญ นักวิชาการกล่าวว่า การแก้ปัญหายางราคาตกต่ำ ไม่สามารถทำได้เพราะ ราคายางเป็นไปตามกลไกลตลาดโลก การให้เงินช่วยเหลือชาวสวนยางจึงไม่เกิดประโยชน์อะไร
ในสังคมโซเชี่ยวมีเดี่ยจึงออกมาให้ข้อคิดเห็นว่า ยางปลูกนานกว่าปลูกข้าว ปีหนึ่งกรีดยางได้เพี่ย 2 ครั้ง
การลงทุนก็สูกกว่าการปลูกข้าว ปลูกยางพาราต้องใช้เวลาถึง 7 ปีจึงจะสามารถกรีดยางได้
สรุป ผลการแก้ปัญหาราคายางตกต่ำ รัฐบาลทหารได้ทำแล้วคือ
1. นายกทหารได้เดินทางไปต่างประเทศคุยเรื่องยางให้แล้ว
2. นักวิชาการว่า ให้เงินช่วยเหลือชาวสวนยางไม่มีประโยชน์
3. ตกลงชาวสวนยางจะได้เงินช่วยเหลือไร่ละเท่าไหร่
คำถาม ขาวสวนยางเป็นผู้เดือดร้อน หรือ เป็นตัวการ์ตูน ให้ภาครัฐปั่นกระแสไปวันๆอย่างนั้นหรือ.
ปัญหาราคายางตกต่ำจากเดิมเคยขายยางแผ่นได้ ก.ก.ละ 100 บาท ตอนนี้ยางแผ่น ก.ก.ละ 25-40 บาท
ชาวสวนยางภาคใต้ได้รับความเดือดร้อนมาก โดยเฉพาะชาวสวนยางรายย่อย
จึงเป็นที่มาของการเข้ามาช่วยเหลือชาวสวนยางภาพใต้ในชื่อ เงินช่วยเหลือชาวสวนยาง
โดยรัฐบาลทหารจะให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องลงไปหาข้อมูลผู้เดือดร้อน เบื้องต้นจะให้เงินแก่ชาวสวนยาง
เป็นเงินจำนวน 1000 บาทต่อไร่ ต่อผู้ปลูกยางไม่เกิน 20-25 ไร่
ด้านชาวสวนยางภาคใต้กล่าวว่า ได้เงินช่วยเหลือ 1000 ต่อไร่นั้นน้อยกว่ารัฐบาลก่อนที่ให้เงินช่วยเหลือถึง 2200 บาทต่อไร่ ตอนนี้จึงไม่สามารถสรุปได้ว่า จะช่วยเหลือเท่าไหร่
เมื่อนายบกทหารไปเยือนต่างประเทศ มีจีน เยรมัน ได้กล่าวว่า เราจะได้ไปพูดเรื่อง การค้าขายยางพารา ส่วนการตกลงซื้อขายกันอย่างไร เมื่อไหร่ นั้นไม่มีข้อมูลว่า การเจราว่าอย่างไร แต่ถ้านายกทหารบินกลับมาต้องให้ข่าวว่า ผมทำดีที่สุดแล้ว ไปต่างประเทศมาได้อะไรเยอะแยอะ พวกคุณอย่าพูกมาก
ทางด้านนักวิชาการที่ได้รับเชิญเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรฐกิจ ปัญหาราคายางตกต่ำ กล่าวว่า ผู้เดือดร้อนเป็นรายย่อย ส่วนรายใหญ่ไม่เดือดร้อน การช่วนเหลือชาวสวนยางก็เหมือนการช่วยเหลือชาวนา และที่สำคัญ นักวิชาการกล่าวว่า การแก้ปัญหายางราคาตกต่ำ ไม่สามารถทำได้เพราะ ราคายางเป็นไปตามกลไกลตลาดโลก การให้เงินช่วยเหลือชาวสวนยางจึงไม่เกิดประโยชน์อะไร
ในสังคมโซเชี่ยวมีเดี่ยจึงออกมาให้ข้อคิดเห็นว่า ยางปลูกนานกว่าปลูกข้าว ปีหนึ่งกรีดยางได้เพี่ย 2 ครั้ง
การลงทุนก็สูกกว่าการปลูกข้าว ปลูกยางพาราต้องใช้เวลาถึง 7 ปีจึงจะสามารถกรีดยางได้
สรุป ผลการแก้ปัญหาราคายางตกต่ำ รัฐบาลทหารได้ทำแล้วคือ
1. นายกทหารได้เดินทางไปต่างประเทศคุยเรื่องยางให้แล้ว
2. นักวิชาการว่า ให้เงินช่วยเหลือชาวสวนยางไม่มีประโยชน์
3. ตกลงชาวสวนยางจะได้เงินช่วยเหลือไร่ละเท่าไหร่
คำถาม ขาวสวนยางเป็นผู้เดือดร้อน หรือ เป็นตัวการ์ตูน ให้ภาครัฐปั่นกระแสไปวันๆอย่างนั้นหรือ.
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)